Git Worktree สลับงานได้คลีนๆ ไม่ต้อง Stash ให้เสีย Flow

หากเพื่อนๆดูแลหลาย Hotfix ของ Library กลางพร้อมกัน ปัญหาหลักคือต้องสลับดูแต่ละงานไปมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีงานที่ยังทำไม่เสร็จก็ต้องใช้ Git Stash ซ่อนการเปลี่ยนแปลงก่อนสลับ Branch ไปทำ Fix อื่นที่เร่งด่วนกว่า ซึ่งเป็นกระบวนการที่กินเวลา ส่วนการใช้ Hotfix Branch เดียวกันสำหรับงานที่ไม่เกี่ยวกัน Release ไม่พร้อมกัน ก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี วันนี้จึงขอเชิญ คุณต้นน้ำ Associate Platform Services Engineer มาแชร์ Tool ใหม่ Git Worktree ที่ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้แบบ Perfect ค่ะ Git Worktree คือ ความสามารถของ Git ที่ให้เราสร้าง Directory เพิ่มเติมจาก Repository เดิมได้ โดย แต่ละ Directory ผูกกับ Branch คนละอัน จึงทำงานแต่ละ Hotfix แบบแยกกันจริง และสลับไปมาด้วยการเปลี่ยนโฟลเดอร์เท่านั้ ผลคือ ไม่ต้อง Stash ไม่ต้อง Re-Clone Repo ใหม่ ไม่ต้องกลัว Commit ปน Branch Multi-task ได้แบบไม่พัง Flow การทำงาน มาดูวิธีใช้แบบเร็ว ๆ กันแค่ 3 คำสั่งก็เริ่มได้เลย: ดูว่ามี Worktree อะไรอยู่บ้างgit worktree list เพิ่ม Worktree สำหรับ branch ‘hotfix-A’git worktree add ../hotfix-a hotfix-A ลบ Worktree เมื… Continue reading Git Worktree สลับงานได้คลีนๆ ไม่ต้อง Stash ให้เสีย Flow

DevOps Insider: นักพัฒนาเก่งขึ้นทันที เมื่อรู้วิธีใช้ GitHub Copilot แบบโปร

GitHub Copilot

นักพัฒนาต่างก็รัก GitHub Copilot เพราะฟิลเหมือนมีเพื่อนเป็น Bot ฉลาดๆคอยแนะนำ แก้ไขโค้ด ประหยัดเวลา ลดงานซ้ำ ๆ แถมยังทำได้มากกว่าแค่เขียนโค้ดอัตโนมัติ เมื่อเราเข้าใจวิธีการเลือกโมเดลที่เหมาะสม วันนี้เลยเชิญคุณเต้ Senior Platform Services Engineer มาแชร์เทคนิคการเลือกโมเดลให้เหมาะกับงานเพื่อให้ AI ช่วยเราเขียนโค้ดได้อย่างชาญฉลาด ไม่ใช่แค่เร็วขึ้น เบื้องหลังความฉลาดของ Copilot อยู่ที่การเลือกโมเดลที่ใช่ GitHub Copilot รองรับโมเดล AI ที่พัฒนาแล้วหลายตัว แต่ละตัวมีจุดแข็งต่างกัน การเลือกโมเดลที่เหมาะจะช่วยให้เราได้คำแนะนำที่รวดเร็ว ถูกต้อง วันนี้มีสามโมเดลที่อยากให้ลองก็คือ Claude Sonnet 4.5: เชื่อถือได้สำหรับงานส่วนใหญ่ เหมาะกับการเขียนโค้ดใหม่ สร้างคำอธิบาย และให้เหตุผล Gemini 2.5 Pro: เหมาะกับโปรเจกต์ที่ใช้หลายภาษา และ การทำงานข้าม API หรือเทคโนโลยีที่หลากหลาย GPT-5 Codex: เหมาะกับการเขียนโค้ด การรีแฟกเตอร์ ดีบัก และการจัดการกับรีโพซิทอรีที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่ หากไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นกับตัวไหน ให้เริ่มใช้ Claude Sonnet 4.5 สำหรับการพัฒนาทั่วไป และใช้ GPT-5 Codex เมื่อต้องการความลึกซึ… Continue reading DevOps Insider: นักพัฒนาเก่งขึ้นทันที เมื่อรู้วิธีใช้ GitHub Copilot แบบโปร

แค่พิมพ์ในแชตก็ Deploy ได้แล้ว! มารู้จัก ChatOps แนวคิดที่กำลังเปลี่ยนโลก DevOps กัน

SCB TechX ChatOps – DevOps Automation via Chat

ChatOps คือแนวคิดที่ให้ทีมสามารถโต้ตอบกับเครื่องมือ DevOps ได้โดยตรงผ่าน chat platform โดยไม่ต้องสลับไปที่ CI/CD dashboard, terminal หรือเครื่องมืออื่น ๆ การทำงานนี้ทำให้ทีมสามารถเรียกใช้ pipeline, deploy, ตรวจสอบสถานะของ environment และดู log ได้ทันทีจาก chat interface

Airflow 3 ทำอะไรให้สาย Data และ Dev ง่ายขึ้นบ้าง?

DAG

ทุกวันนี้ทีม Data และ Dev ต้องเจอกับงานที่ซับซ้อน แต่ถ้ามีผู้ช่วยจัดการคิวงานให้ทุกขั้นตอน ชีวิตจะง่ายขึ้นขนาดไหน? วันนี้เลยชวนคุณ Patsakorn, Platform Services Engineer มาแชร์ว่า ทำไม Apache Airflow 3 ถึงกลายเป็นเพื่อนคู่ใจของสาย Data และ Dev ที่ช่วยให้ทำงานเร็วขึ้น ง่ายขึ้น และเหนื่อยน้อยลงจริง ๆ Apache Airflow คืออะไร? ลองจินตนาการว่าคุณเป็น Project Manager ที่ต้องจัดการโปรเจกต์ซับซ้อน มีหลาย Tasks ต้องทำตามลำดับ บาง Tasks เริ่มไม่ได้จนกว่า Tasks อื่นจะเสร็จ และต้องแน่ใจว่าทุกอย่างทำงานตามกำหนดเวลา ซึ่ง Apache Airflow ก็เหมือนกับการมี Automated Project Manager ให้กับ Data Workflows นั่นเอง DAG คืออะไร? DAG ย่อมาจาก Directed Acyclic Graph ตัวแรก Directed คือ Tasks ที่ไหลไปในทิศทางเดียว (เหมือนน้ำไหลลงสู่ที่ต่ำ) Acyclic คือไม่มี Circular Loops (Tasks ไม่วนกลับมาที่ตัวเอง) Graph คือ Visual Representation ของ Tasks ที่เชื่อมต่อกันโดย DAG มี 5 ประเภทที่ยอดนิยม ประเภทของ DAG 1. Standard DAG (Traditional Workflow) เป็น Workflow ที่พบบ่อยสุด Tasks ทำงานตามลำดับที่กำหนด เช่น Processing dail… Continue reading Airflow 3 ทำอะไรให้สาย Data และ Dev ง่ายขึ้นบ้าง?

GreenOps คืออะไร? ทำไมองค์กรไอทีต้องให้ความสำคัญ

ในยุคที่ภาวะโลกร้อนกลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก GreenOps หรือ Sustainable DevOps กำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญในวงการไอที ไม่ใช่เพียงเพื่อลด Carbon Footprint แต่ยังตอบโจทย์การดำเนินงานตามหลัก ESG (Environmental, Social, Governance) อีกด้วย ต่อจากนี้ ความสำเร็จของ DevOps จะไม่วัดแค่ “ความเร็ว” หรือ “ประสิทธิภาพ” เท่านั้น แต่ต้องดู “ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม” ด้วย จาก DevOps สู่ GreenOps: โมเดลการทำงานใหม่เพื่อโลกที่ยั่งยืน GreenOps เกิดจากการต่อยอดกระบวนการ DevOps ดั้งเดิม ด้วยแนวคิด Sustainable Software Engineeringตัวอย่างเช่น: วัด Carbon Footprint ของระบบแบบ Real-Timeเพื่อวัดว่าแต่ละครั้งที่ Deploy Container เราสร้างก๊าซคาร์บอนไปเท่าไร โดย ใช้ Tools เช่น – AWS Customer Carbon Footprint Tool– Microsoft Cloud for Sustainability บริหารทรัพยากรอย่างชาญฉลาดเช่น ปิด Server อัตโนมัติในช่วง Non-Peak Hours ด้วย Kubernetes Horizontal Pod Autoscaler เลือกใช้ Cloud Region ที่ใช้พลังงานสะอาด ตัวอย่างเช่น Deploy ใน AWS Europe (Ireland) ซึ่งใช้พลังงานลม 10… Continue reading GreenOps คืออะไร? ทำไมองค์กรไอทีต้องให้ความสำคัญ

ทำไม Cloud-Native ถึงเป็นรากฐานขององค์กรยุคดิจิทัล

จากอดีตสู่ปัจจุบัน: จุดกำเนิดของ Cloud-Native เมื่อเราย้อนกลับไปสักสิบกว่าปีนั้น การพัฒนาแอปพลิเคชันขององค์กรส่วนใหญ่ยังเป็นแบบ Monolithic ที่ทุกฟังก์ชันยังรวมกันอยู่ในโค้ดก้อนเดียว รันบนเครื่อง Server ใน Data Center ของผู้ให้บริการ ซึ่งการ Update หรือเพิ่ม Feature แต่ละครั้งมักต้องใช้เวลานาน เสี่ยงทำให้ทั้งระบบล่ม และยิ่งองค์กรเติบโตขึ้น ปัญหาการขยายระบบก็ยิ่งหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ การเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อ Cloud Computing และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น Container (Docker) และการออกแบบแอปพลิเคชันแบบ Microservices เข้ามา ได้แยกแอปพลิเคชันออกเป็น Service ย่อย ๆ จึงพัฒนาได้อย่างอิสระ ขยายได้ง่าย และนำไปใช้งานบนโครงสร้างพื้นฐานแบบใดก็ได้ ไม่ว่าจะ Public, Private หรือ Hybrid Cloud ภาพจาก: https://kubernetes.io/images/kubernetes-open-graph.png และไม่นานหลังจากนั้น Kubernetes ก็ถือกำเนิดขึ้นจาก Google ก่อนจะถูกส่งต่อให้ CNCF ที่ถูกพัฒนาเป็น Open Source และกลายเป็นมาตรฐานสำคัญของการจัดการคอนเทนเนอร์ในระดับองค์กร ซึ่งทุกวันนี้ Kubernetes แทบจะเป็นหัวใจหลักของโลก Cloud-Native Cloud-Nati… Continue reading ทำไม Cloud-Native ถึงเป็นรากฐานขององค์กรยุคดิจิทัล

MLOps เครื่องมืออัตโนมัติที่พา AI ต่อยอดธุรกิจ

เมื่อพูดถึง DevOps หลายคนคงคุ้นเคยกับภาพการทำงานที่เน้นการ Automate งานต่าง ๆ เช่น การพัฒนา (Development), การ Build, การ Testing และการ Deploy เพื่อให้นักพัฒนา (Developer) ทำงานได้รวดเร็วขึ้นและส่งมอบซอฟต์แวร์ถึงมือผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าเรานำแนวคิดเดียวกันนี้มาใช้กับงาน AI หรือ Data Science ล่ะ? ตอนนี้มีเครื่องมือที่ชื่อว่า MLOps (Machine Learning Operations) ซึ่งเปรียบเสมือน DevOps ในโลกของ Data และ AI เลย ดังนั้นเราไปทำความรู้จักกับ MLOps เพื่อนำคุณสมบัติเด่นๆไปใช้ประโยชน์กัน จาก DevOps สู่ MLOps DevOps คือการ Automate งานซ้ำ ๆ ในซอฟต์แวร์ เพื่อเพิ่มความเร็วและลดความผิดพลาด ในทำนองเดียวกัน MLOps คือการ Automate pipeline ของงานด้าน Data และ Machine Learning เช่น Data Collection: การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ Data Cleaning: การทำความสะอาดข้อมูลให้อยู่ในรูปที่พร้อมใช้งาน Model Training: การนำข้อมูลมาเทรนโมเดล Machine Learning Deployment: การนำโมเดลที่ผ่านการเทรนไปใช้งานจริง Monitoring & Retraining: ติดตามผลและ Re-train โมเดลอัตโนมัติเมื่อมีข้อมูลใหม่ ทำไมองค์กรควรสน… Continue reading MLOps เครื่องมืออัตโนมัติที่พา AI ต่อยอดธุรกิจ

Jenkins & GitHub Actions สูตรลับ DevOps ที่มีประสิทธิภาพกว่า

Jenkins and GitHub Actions

ทุกวันนี้ Jenkins ยังคงเป็นพระเอกของงาน Automation แต่บางครั้งการทำงานหนักมากๆเกินไปก็อาจทำให้มีติดขัดบ้างจะดีกว่าไหมถ้าวันนี้มีคู่หูคนใหม่มาช่วยแบ่งเบาภาระงาน Jenkins บ้าง? วันนี้จึงขอเชิญคุณพัตเตอร์ Platform Services Engineer มาแชร์ว่า GitHub Actions เข้ามาช่วยเติมเต็ม Jenkins ได้อย่างไร ตามไปอ่านกันค่ะJenkins เป็นเครื่องมือยอดนิยมในการจัดการงานอัตโนมัติ แต่การให้ Jenkins ดูแลทุกอย่างคนเดียวอาจเป็นภาระที่หนักอยู่GitHub Actions ก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่คล้ายกับ Jenkins แต่เราสามารถแบ่งงานบางส่วนที่ Jenkins เคยทำให้ GitHub Actions ช่วยดูได้ โดยเฉพาะงานที่ผูกกับ GitHub เช่น Pull Request Automation รัน Lint และ Unit Test เบื้องต้น ตรวจสอบ Code Style และ Security Scan Auto label และ assign reviewer Release Automation สร้าง Release Note อัตโนมัติ Bump เวอร์ชันและสร้าง Tag Publish package ไปยัง npm, PyPI หรือ Docker Hub Repo Management ลบ Branch ที่ merge แล้ว Sync fork อัตโนมัติ Schedule งานแบบ cron (เช่น cleanup, update dependency) ตัวอย่างการนำ GitHub Actions มาประยุกต์ใช้ เรานำ GitHub… Continue reading Jenkins & GitHub Actions สูตรลับ DevOps ที่มีประสิทธิภาพกว่า

Multi-Cloud หรือ Hybrid Cloud เลือกอันไหนดี?

ทำไมทุกคนถึงใช้ Cloud? ทุกคน เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมตอนนี้ใครๆ ก็หันมาใช้ Cloud กันเยอะแยะเต็มไปหมด ก็เพราะว่ามันช่วยให้เราทำงานได้เร็วขึ้น สะดวกขึ้น แถมไม่ต้องคอยดูแลเซิร์ฟเวอร์เองให้ยุ่งยากด้วยนะ แต่ปัญหาคือ Cloud สมัยนี้มันมีหลายเจ้าเหลือเกิน ทั้ง AWS, Azure, Google Cloud, IBM Cloud… โอ้โห แล้วเราจะเลือกใช้เจ้าไหนดีล่ะ? นี่แหละคือคำถามยอดฮิต เมื่อก่อนพี่ก็คิดนะว่า ถ้าจะใช้ Cloud ก็ต้องเลือกเจ้าเดียวสิ ไม่งั้นคงจะวุ่นวายตายชักเลยกับการต้องจัดการหลายๆ แพลตฟอร์ม แต่พอได้มารู้จักกับ Multi-Cloud กับ Hybrid Cloud เท่านั้นแหละ ทุกอย่างก็เริ่มกระจ่างขึ้นมาทันทีเลยว่า “อ๋อ…จริงๆ แล้วเราสามารถใช้ Cloud หลายๆ เจ้าได้นะ เพื่อให้เหมาะกับความต้องการขององค์กรเราไง” Multi-Cloud คืออะไร? ลองจินตนาการดูนะว่า Multi-Cloud ก็เหมือนกับการที่เรามีเพื่อนซี้หลายคนที่มีความเก่งกาจแตกต่างกันไปน่ะ เราเลือกใช้บริการจาก Cloud หลายๆ เจ้าในเวลาเดียวกัน เพราะแต่ละเจ้าเขาก็มีจุดเด่นไม่เหมือนกัน AWS อาจจะเด่นเรื่องการประมวลผลและการเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ Azure อาจจะเจ๋งเรื่องการเชื่อมต่อกับเทคโ… Continue reading Multi-Cloud หรือ Hybrid Cloud เลือกอันไหนดี?

Vibe Coding: เมื่อ DevOps โค้ดด้วย “ภาษาคน”

เคยไหมคะ? ที่ต้องนั่งจ้องหน้าจออยุ่ในโลกของไฟล์ Groovy script , Terraform หรือ Ansible playbook ที่ยาวเหยียดเป็นกิโล มีความซับซ้อนเพื่อควบคุม CI/CD Pipeline ของเรา ไหนจะการเตรียม Infrastructure บน AWS, Azure งานเหล่านี้สนุกก็จริง แต่ก็เปลืองเวลาและพลังงานไม่น้อย

หมวดหมู่: DevOps