ปลายเดือนนี้หยุดยาวหลายวัน Work Inspiration เลยอยากชวนเพื่อนๆไปฮีลจิตฮีลใจ ท่องเที่ยวพักผ่อนกันบ้าง หลังจากทำงานอย่างทุ่มเทมาครึ่งปี จะได้ไม่เบิร์นเอาท์ มีแต่งานว้าวๆ เพราะไปเติมพลังชาร์จแบตกลับมาเต็มที่พร้อมลุยเพื่อผลงานปังๆในครึ่งปีหลังค่ะ วันนี้เลยชวนพี่อวย Governance & Control Associate Director ผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวมาแชร์ประสบการณ์การและเคล็ดลับดีๆว่าเที่ยวพักร่างอย่างไรให้มีพลังใจกลับมาทำงานให้ปังกว่าเดิมพร้อมแชร์วิธีวางแผนเลือกวันลา การเตรียมตัวก่อนลา การเก็บเงินเที่ยว ฯลฯ ใครอยากได้แรงบันดาลใจดีๆไปตามอ่านกันเลยค่ะ
แนะนำพี่อวยค่ะ
สวัสดีค่ะ ชื่อเล่น ชื่ออวยค่ะ หรือที่คนส่วนใหญ่ค่อนบริษัทเรียกว่าพี่อวยค่ะ ตอนนี้ทำงานอยู่ภายใต้ทีม Governance Management & Operation Support โดยจะดูแล 2 ทีมย่อย คือทีม Governance & Control และทีม Change Management ค่ะ ซึ่งงานของ Governance & Control ในตอนนี้จะดูแลหลายส่วน ตั้งแต่การดูแลงานด้าน Corporate Governance, Data Protection, BCP, การดูแลเอกสารต่างๆ ภายในบริษัทตั้งแต่ Policy ไปจนถึง process หรือ procedure ต่างๆ รวมถึงการ support project และ BU ในการดำเนินการด้านความเสี่ยงและกฎเกณฑ์ต่างๆ ก่อนที่จะ Launch ส่วนงานของ Change Management จะเน้นไปที่การ support project ต่างๆ ในด้านการสื่อสารและ training feature หรือ service ต่างๆ ให้ลูกค้าค่ะ
Motto ในการใช้ชีวิตของพี่คือ Life is short, the world is wide. ชีวิตมันสั้น โลกมันกว้าง เดินทางกันดีกว่า! ไม่มีใครรู้ว่าเราจะจากโลกนี้ไปเมื่อไหร่ เราจะมีโอกาสได้ทำในสิ่งที่อยากทำหรือมีเวลาสำรวจโลกที่กว้างใหญ่นี้ได้อีกนานแค่ไหน ดังนั้นเราก็น่าจะต้องใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่าและเริ่มออกเดินทางท่องโลกกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ตั้งแต่ยังมีแรง มีกำลัง จะได้เห็นโลกให้มากที่สุด เพราะบางอย่างก็อาจจะทำได้แค่บางช่วงของชีวิตด้วยซ้ำไป ดังนั้นงานอดิเรกที่พี่ชอบมากที่สุด คือ การได้ออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเห็นโลกในมุมต่างๆ เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เจอสิ่งใหม่ๆ มุมมองใหม่ๆ ได้เรียนรู้ ได้เห็นความแตกต่างของวัฒนธรรม ความหลากหลายของสังคม ได้เปลี่ยนบรรยากาศ พักสมอง ออกจาก comfort zone ได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ และเป็นการให้รางวัลกับตัวเองจากการทำงานหนักด้วยค่ะ
จุดเริ่มต้นของการออกเดินทางและเทคนิคการเก็บเงิน
พี่เริ่มต้นการเดินทางท่องเที่ยวมาตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมปลาย ในตอนนั้นก็เริ่มต้นจากการท่องเที่ยวในประเทศกับเพื่อนๆ ไปกันเป็นกลุ่ม ไปเที่ยวตามต่างจังหวัด นั่งรถทัวร์ รถบัส รถไฟ กันไปตามประสา พอมาเริ่มทำงานก็เริ่มขยับไปเที่ยวต่างประเทศ เริ่มจากประเทศใกล้ๆ จนขยับไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ
แน่นอนว่าการเดินทางท่องเที่ยวต้องมีทั้งกำลังกายและกำลังทรัพย์ ดังนั้นการเก็บเงินเพื่อใช้ในการท่องเที่ยวจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีการจัดสรรและวางแผนการเงินเพื่อไม่ให้การนำเงินไปใช้ท่องเที่ยวส่งผลกระทบกับเป้าหมายหลักในชีวิตของเราได้ พี่จะใช้วิธีวาง budget ในแต่ละปีว่าเราจะจัดสรรเงินได้ของเราเพื่อใช้ในการท่องเที่ยวเป็นอัตราส่วนเท่าไหร่ แล้วแบ่งเงินได้แต่ละเดือนตามอัตราส่วนนั้น เมื่อจะเดินทางท่องเที่ยว ก็จะใช้เงินจากส่วนนี้และ control ไม่ให้เกิน budget ค่ะ
สไตล์การท่องเที่ยว และ ความประทับใจในการเดินทาง
สไตล์การท่องเที่ยวของพี่ น่าจะเปลี่ยนไปตามช่วงวัยค่ะ สมัยก่อนตอนวัยรุ่นก็ชอบ Adventure สายธรรมชาติ เดินป่า ขึ้นเขา แต่พอเริ่มแก่ขึ้น ก็เริ่มรักสบายมากขึ้น ชิลมากขึ้น แต่ก็ลึกซึ้งมากขึ้นเช่นกัน เป็นการท่องเที่ยวแบบที่เน้นการเรียนรู้ประเทศนั้นๆ ด้วยการไปดูการใช้ชีวิตของผู้คน ผ่านการเดินตลาด การเข้า supermarket การกินอาหาร local การไปเดินสวนสาธารณะ และที่ชอบมากๆ คือการเข้า museum หรือสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องราวของผู้คนและประเทศนั้นๆ จากอดีตและเชื่อมโยงมาถึงปัจจุบัน
สิ่งที่ชอบทำมากที่สุดทุกครั้งที่ไปเที่ยว คือการดูพระอาทิตย์ตกดิน ที่อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่ปกติแล้วในแต่ละวันเราแทบจะไม่เคยสนใจช่วงเวลานี้เลย แต่เวลาที่เราได้ไปในสถานที่ใหม่ๆ แต่ละที่จะมีจุด highlight ที่มีความสวยงามและมีวิวพระอาทิตย์ตกที่ไม่เหมือนที่ไหน และตอนช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตกดินยังเป็นช่วงเวลาที่สวยมาก แสงอาทิตย์เป็นสีทอง ท้องฟ้ามีเฉดสีสารพัดสี ก้อนเมฆที่รวมตัวกันไม่เคยซ้ำกันซักวัน จึงเป็น moment ที่น่าจดจำเหมาะกับการดื่มด่ำในสถานที่ใหม่ๆ ที่เราอาจจะมีโอกาสไปแค่ครั้งเดียวในชีวิตค่ะ
เทคนิคการวางแผนท่องเที่ยว
การวางแผนของพี่อาจจะวางแผนจากสถานที่หรือประเทศที่อยากไปก่อน แล้วค่อยมาดูว่าสถานที่นั้น เราอยากไปตอนฤดูไหน เพราะแต่ละฤดูก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันออกไป แล้วplan ให้คาบเกี่ยวกับวันหยุดราชการ เพื่อที่จะได้ไปได้หลายวันโดยไม่กระทบกับงานมาก และที่สำคัญต้องวางแผนไม่ให้ตรงกับช่วงที่มีงานสำคัญ ถ้ามีงานที่มีกำหนดส่งที่แน่นอน ก็ต้องวางแผนทำให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ดังนั้นทุกคนสามารถวางแผนและบริหารจัดการกับเวลาและงานของตัวเองได้ จะได้มีเวลาไปท่องเที่ยวหรือทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อหาประสบการณ์และเป็นการชาร์จแบตเติมพลังให้ตัวเองได้อย่างดีเลยค่ะ
สิ่งที่ได้จากการเดินทางท่องเที่ยว
แน่นอนค่ะ การเดินทางทำให้เราได้เปิดโลก พี่มองว่า โลกเราเหมือนห้องเรียนขนาดใหญ่ที่เราสามารถเรียนรู้ได้ไม่สิ้นสุดและการเดินทางก็เป็นวิธีที่ทำให้เราได้ออกไปเรียนรู้ในสถานที่จริง ทุกครั้งที่ออกเดินทาง เราจะได้เห็นโลกในมุมมองที่กว้างขึ้น ได้เห็นสิ่งแปลกใหม่ ได้ความรู้ใหม่ๆ และได้เรียนรู้ความแตกต่างมากมาย ทำให้ได้รู้จักและเข้าใจผู้คน สังคมและวัฒนธรรมที่หลากหลายและช่วยให้เราเข้าใจและยอมรับความแตกต่างมากขึ้น
นอกจากกำไรที่ได้จากมุมมองที่กว้างขึ้นแล้ว การได้ไปเห็นการใช้ชีวิตและคุณภาพชีวิตของผู้คนในที่ต่างๆ ก็ทำให้เราย้อนกลับมามองตัวเอง มองสังคมเราเอง ในบางครั้งก็ทำให้เรามองเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามีมากขึ้น แต่บางครั้งการได้ไปเห็นประเทศที่มีคุณภาพชีวิตดีๆ ก็สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศเรามีจุดด้อยหรือยังล้าหลังประเทศอื่นๆ อยู่อีกมากมาย ทำให้เกิดความสงสัยต่อว่า แล้วประเทศเหล่านั้น เค้าทำได้ยังไง แล้วเราจะไปอยู่ที่จุดนั้นได้อย่างไร
ส่งต่อแรงบันดาลใจในการทำงานและการใช้ชีวิต
อยากฝากว่า การทำงานที่เราต้องทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจไปมากๆ หรือ ทำมันมาด้วยระยะเวลานาน จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ย่อมจะ burn out หรือหมดไฟกันได้ ดังนั้นให้เราพยายามมองหาความสุขหรือสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำงานให้เจอ แล้วมันจะช่วยฮีลใจเรา ให้เรามีกำลัง แรงใจที่จะทำมันต่อไปได้ทุกวัน แต่ถ้าเรารู้สึกว่า เราไปต่อไม่ไหว ก็อาจจะต้องพักเบรก ไปหากิจกรรมทำหรือลองออกเดินทางท่องเที่ยวดูค่ะ อาจจะทำให้เราเข้าใจตัวเองและคนอื่นมากขึ้น ได้แรงบันดาลใจอะไรใหม่ๆ ได้มุมมองใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ ๆ และที่แน่ ๆ ได้ความสุขและความทรงจำดีๆ กลับมาแน่นอนค่ะ