บทสัมภาษณ์สร้างแรงบันดาลใจในการทำงานครั้งนี้จะเปลี่ยนมุมมองความคาดหวังและการรอคอยโอกาสที่ไม่รู้จะมาเมื่อไร เป็นการลงมือทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างเต็มที่ที่สุด ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นประสบการณ์ชีวิตดั่งรากแก้วที่พร้อมขยายกิ่ง ก้าน สาขา ออกดอกผลเจริญงอกงามไปทุกทาง โดยไม่ต้องรอคอยโอกาส หรือ โชคช่วย เราสามารถหาเส้นทางไปสู่จุดหมายได้ด้วยตัวเอง แล้วเมื่อเราพร้อมระหว่างทางอาจมีโอกาสเข้ามา เราก็มีสิทธิเลือกนำมาเป็นเครื่องมือต่อยอดให้เราถึงเส้นชัยเร็วขึ้น ซึ่งคนที่มาให้แรงบันดาลใจในครั้งนี้คือคุณกอล์ฟ Data Analyst จาก SCB TechX ที่นอกจากจะทำงานประจำแล้ววันหยุดยังรับหน้าที่เป็นอาจารย์พิเศษสอนหนังสือให้แก่นักศึกษาปริญญาตรีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อีกด้วย มาตามอ่านเรื่องราวที่ช่วยเพิ่มพลังบวกในใจของพวกเรากันได้เลยค่ะ
ชวนทำความรู้จักคุณกอล์ฟค่ะ
สวัสดีครับ ผมชื่อกอล์ฟครับ เพิ่งเรียนจบปริญญาโทใบที่ 2 จาก NIDA คณะ Applied Statistics สาขา Artificial Intelligence and Machine Learning โดยปริญญาโทใบแรกจบจาก Thammasat University คณะ Master in Finance — International Program (MIF) ปริญญาตรีจบจาก King Mongkut’s University of Technology Thonburi คณะ Computer Engineering ซึ่งตอนที่เรียน ได้ทำงานที่ SAP Consultant ในส่วน Treasury Module ของอุตสาหกรรม Petroleum Exploration and Production ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับ Finance แล้วชอบจึงตัดสินใจต่อโทด้านนี้ พอเรียนจบได้ทำงานในสาย Risk Management ในส่วนของ Capital Risk ของวงการประกันชีวิต และ Asset and Liability Management (ALM) ของวงการธนาคาร และก็ได้ทำงานในอุตสาหกรรม Duty Free ตำแหน่ง Data Scientist ที่นี่ได้เรียนรู้การวิเคราะห์ข้อมูล ได้นำความรู้ที่เรียนมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจ เช่น นำ Market Basket Analysis มาใช้สร้าง Campaign เพื่อ Boost Sales เป็นต้น ปัจจุบันทำงานที่ SCB TechX ตำแหน่ง Data Analytic ทำร่วมกับพี่ๆและเพื่อนๆในทีม ช่วยกันวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อหา Insight ที่น่าสนใจมานำเสนอเพื่อประโยชน์ในทางธุรกิจ ในส่วนของงานอดิเรกนั้น ปกติถ้ามีเวลาว่างหลังเลิกงานจะพยายามบังคับตัวเองออกไปวิ่งให้ได้อย่างน้อย 6–10K. ทุกวัน เนื่องจากผมเริ่มเป็น Office Syndrome และก็มีแผนว่าจะลองไปวิ่ง Marathon สักครั้งในปีนี้ครับ เลยต้องฝึกฝนพัฒนาไปเรื่อยๆให้ร่างกายคุ้นชิน นอกจากวิ่งแล้ว ทุกๆวันเสาร์ผมมีตารางสอนน้องๆนักศึกษาปริญญาตรี ที่มหาลัยธรรมศาสตร์ด้วยครับ
มาเป็นอาจารย์พิเศษได้อย่างไร สอนเรื่องอะไร และจัดเวลาชีวิตคะ?
เริ่มแรกเลยอาจารย์วินน์ (BOTNOI Group) ชวนผมไปสอนกลุ่มคนวัยทำงานในด้าน Machine Learning เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับ Fraud Detection และ การทำ Data Analytics เบื้องต้น สอนCoding เป็นต้น สำหรับการสอนนักศึกษาปริญญาตรีนั้น อาจารย์ผมที่สอนปริญญาโท Finance มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ชวนให้ไปสอนเกี่ยวกับ Machine Learning ให้กับนักศึกษา คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขา International Business, Logistics and Transport (IBLT) แต่หลังจากที่ได้เริ่มสอนพบว่าน้องๆ ยังไม่เคยเขียน Program มาก่อน จึงได้เพิ่มพื้นฐานของการเขียน Program ไปให้ด้วยโดยภาษาที่ผมเลือกสอนคือ Python เนื่องจากเป็นภาษาที่เข้าใจง่ายเนื้อหาที่สอนเน้นเกี่ยวกับ Basic Programming เช่น Data Types, Pandas and Numpy, Data Visualization, Data Analytics: EDA and Feature Engineering เป็นต้น โดยในตอนท้ายๆของ Course จะสอนการทำ Exploratory Data Analysis (EDA) เป็นกระบวนการตรวจสอบ สำรวจข้อมูลเบื้องต้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลที่จำเป็นก่อนนำไปใช้ หรือวิเคราะห์เชิงลึก นอกจากนี้ยังสอนเกี่ยวกับการทำ Feature Engineering เป็นการใช้ความรู้ Domain Knowledge ในการสร้าง Feature ใหม่ขึ้นมา ตัด Feature ที่ไม่เกี่ยวข้องทิ้งไป เพื่อช่วยทำให้อัลกอริทึมเรียนรู้ได้ดีขึ้น เช่น Imputation เติมข้อมูลที่ขาด (Fill n/a, Fill Missing), Handling Outliers จัดการข้อมูลโดด (replace, Rare) และ Log Transform แปลงข้อมูล Exponential เป็น Linear เป็นต้น โดยการสอนจะสอนทุกๆ วันเสาร์ 09:00–12:00 ในแต่ละครั้งที่ไปสอนก็จะวางแผนการสอนด้วยเช่น ถ้าสอนเกี่ยวกับ Pandas and Numpy ก็จะดูว่ามีเรื่องไหนบ้างที่น้องๆควรรู้ เราก็จะจัดลำดับการสอน มีเตรียมเคสตัวอย่างให้เห็นภาพ รวมถึงการหาโจทย์ (Exercise In-Class) ให้น้องๆได้ฝึกทำตอนท้ายคาบ เพื่อให้น้องๆได้ลองทดสอบตัวเองดูว่าสิ่งที่เรียนไปแต่ละครั้ง น้องๆมีความเข้าใจมากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนจะได้ถามเพิ่มเติมได้ครับ หลังจากที่ได้รับงานสอนนี้มาต้องบอกว่าเวลาว่างส่วนตัวลดลงเยอะ เพราะต้องเอามาเตรียมทำ Materials ในการสอน เนื่องจากผมไม่เคยสอนนักศึกษาระดับปริญญาตรีมาก่อน เลยทำให้ต้องใช้เวลาในการเตรียมตัวพอสมควร ต้องลดเวลาซ้อมวิ่งลง แต่ก็พยายามหาเวลาไปซ้อมวิ่งให้ได้ต่อเนื่องครับ
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ยังอยากสอนหนังสืออยู่ไหม? แล้วได้อะไรจากการสอนบ้าง?
ในช่วง 2 Classes แรกที่สอนรู้สึกเหนื่อยเพราะว่า ตัวผมเองไม่เคยสอนน้องๆ ในระดับปริญญาตรีมาก่อน เลยต้องใช้เวลาเตรียม Materials ในการสอน แต่พอสอนไปสักพักได้เห็นว่าน้องๆ นั้นมีความตั้งใจอยากเรียนรู้จริงๆ สังเกตได้จากแววตากับคำถามที่น้องๆถามกลับมาเวลาที่ผมได้สอน มันเลยทำให้ผมรู้สึกว่า ถึงเหนื่อยก็คุ้มค่าที่ได้สอนน้องๆให้เกิดความเข้าใจ ทำให้ผมรู้สึกว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ก็เลือกที่จะสอนเพื่อถ่ายทอดความรู้ให้น้องๆได้เอาไปใช้ นอกจากนี้ สิ่งที่ผมได้จากการสอนคือ ได้รู้จักวางแผนชีวิตในแต่ละวันให้เป็นระบบมากขึ้น เช่น ในแต่ละ week ผมจะแบ่งเวลาว่างมาซ้อมวิ่ง Easy Run, Long Run, Tempo และ Interval วันไหนบ้าง และจะทำ Materials ในการสอนยังไงให้เสร็จก่อนวันพฤหัสบดีของแต่ละ Week เพื่อที่จะ Upload Materials ให้น้องๆ ไปดูเนื้อหาก่อนเข้าเรียน นอกจากนี้เวลาที่น้องๆถามคำถาม ก็รู้สึกว่าได้ฝึกทักษะการตอบคำถามไปด้วย พยายามเรียบเรียงความคิดก่อนตอบว่าต้องตอบยังไงเพื่อให้น้องๆเข้าใจและคำตอบที่ตอบต้องให้น้องได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและต่อยอดความรู้เค้าไปได้อีกครับ
ในฐานะตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จในการทำงานระดับหนึ่ง คิดว่าอะไรเป็นแรงบันดาลใจให้มีความมุ่งมั่นทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้สำเร็จ?
โดยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบตั้งเป้าหมายระยะสั้นๆ เพื่อที่จะได้ภูมิใจวันละนิดว่าอย่างน้อยเราก็ทำได้ เช่น หลังเลิกงานวันนี้ว่าจะไปวิ่ง 10 K. หรือ วันนี้ว่าจะทำการ Clean Data ให้เรียบร้อยแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยนำ Data ที่ Clean มาวิเคราะห์ต่อ เป็นต้น ถึงแม้ว่ามันจะดูเป็นเรื่องง่ายๆแต่ถ้าเราทำมันได้ต่อเนื่อง ผมมองว่ามันเป็นการฝึกให้เราเกิดนิสัยในการทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จ อีกทั้งยังทำให้เราเกิดความรู้สึกภูมิใจในตัวเองว่าเราก็สามารถทำมันได้นะ
มีความภูมิใจกับตัวเองในตอนนี้แค่ไหน? ช่วยส่งพลังใจให้คนที่คิดว่าตัวเองไม่มีโอกาสดีๆเข้ามาในชีวิตบ้าง?
โดยส่วนตัวผมคิดว่า “โอกาส” เป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ ไม่รู่ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไร บางทีมันอาจจะมาตอนที่เราไม่มีความพร้อมก็ได้ ดังนั้น ผมจึงพยายามที่จะไม่ Focus มันเท่าไร แต่จะพยายามตั้งใจเรียนรู้และทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด มีปัญหาเข้ามาก็ค่อยๆแก้ไป พยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่ความสามารถเราจะทำได้อย่างน้อยเราก็ได้ภูมิใจว่าเราทำทุกอย่างได้ด้วยความสามารถของตัวเองครับ
