เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีไบโอเมทริกซ์ (Biometrics) หนึ่งในเทคโนโลยีที่มาแรงในช่วง 4 – 5 ปีที่ผ่านมานั่นก็คือ Face Recogintion หรือ การจดจำใบหน้า ที่ถึงแม้จะถูกคิดค้นมาตั้งแต่ช่วงปี 1960s แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าได้รับการพัฒนาและนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน เพื่อยืนยันตัวตนของบุคคลหรือผู้ใช้บริการ ซึ่งได้กลายมาเป็นหนึ่งในมาตรการความปลอดภัยที่ใช้ในการทำ eKYC อีกด้วย
ในบทความนี้ SCB TechX จะพามาดูกันว่า Face Recognition คืออะไร? แล้ว เทคโนโลยีนี้สามารถนำมาใช้ในการยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ หรือ eKYC ได้อย่างไรบ้าง?
Face Recognition คืออะไร?
Face Recognition หรือ “เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า” คือ ระบบที่ทำการจดจำใบหน้าเพื่อแยกแยะและยืนยันตัวตนของบุคคล ด้วยการใช้ AI (Artificial Intelligence) ในการวิเคราะห์ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์บนใบหน้าของแต่ละคน เช่น ดวงตา จมูก คิ้ว ปาก และโครงหน้า แล้วนำมาเทียบกับฐานข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อยืนยันว่าใบหน้าที่ตรวจจับได้ถูกต้องและตรงกับบุคคลนั้นๆ จริง
การสแกนใบหน้าพิสูจน์บุคคลนั้นเป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด ซึ่งหลายคนอาจคุ้นเคยกับเทคโนโลยีนี้กันดีอยู่แล้ว อย่างการปลดล็อกสมาร์ตโฟน การเข้ารหัสในแอปฯ หรือการยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมออนไลน์ต่างๆ ด้วยการสแกนใบหน้า เพราะ Face Recognition ถือเป็นเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูง จึงถูกนำมาใช้ในด้านความปลอดภัยในปัจจุบันนั่นเอง
เทคโนโลยี Face Recognition ทำงานอย่างไร?
ระบบ Face Recognition ของผู้ให้บริการแต่ละเจ้านั้นจะมีวิธีการทำงานที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับผู้พัฒนา ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา Deep Learning ซึ่งทำให้ Facial Recognition AI ฉลาดและแม่นยำมากขึ้น หรือการนำซอฟต์แวร์อื่นๆ เข้ามาช่วย โดยทั่วไปการทำงานของ Face Recognition สามารถแบ่งออกเป็น 3 ลำดับขั้นตอนพื้นฐาน ได้แก่
1. การตรวจจับใบหน้า (Detection)
ในขั้นตอนแรก Facial Recognition AI จะทำการค้นหาใบหน้าในรูปถ่ายหรือภาพวิดีโอต่างๆ จากกล้อง ซึ่งยังไม่ได้เริ่มการตรวจสอบใบหน้า แต่เป็นเพียงการระบุว่ามีจำนวนใบหน้าเท่าไหร่ในภาพนั้นๆ เพื่อจะนำไปประมวลผลในขั้นตอนถัดไป
2. การวิเคราะห์ (Analysis)
ในขั้นตอนนี้ระบบ AI จะทำการ “ร่างใบหน้า” หรือ สร้าง Faceprint เพื่อทำโมเดลใบหน้าอ้างอิงในการตรวจสอบตัวตน โดยปกติจะเป็นการวัดระยะห่างระหว่างดวงตา รูปร่างของคาง ระยะห่างระหว่างจมูกและปาก หลังจากนั้น AI จะเปลี่ยนข้อมูลเหล่านี้ให้เป็นตัวเลข หรือจุดบนใบหน้าที่เรียกว่า Nodal Points หรือจุดเชื่อมโยงบนใบหน้า
3. การจำแนกใบหน้า (Recognition)
ขั้นตอนสุดท้าย เป็นการจำแนกว่าบุคคลนั้นๆ ในรูปคือใคร โดยการนำข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากขั้นตอนก่อนหน้ามาเปรียบเทียบกับลักษณ์จำเฉพาะของรูปหน้าในฐานข้อมูล เพื่อตรวจสอบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นคนคนเดียวกันกับในรูปภาพหรือไม่
ทั้งสามขั้นตอนนี้อาจดูซับซ้อนและใช้เวลานาน แต่จริงๆ แล้วใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นเอง นอกจากนี้ Face Recognition ยังเป็นเทคโนโลยีที่ได้เปรียบกว่าการสแกนลายนิ้วมือหรือม่านตา เพราะไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์จำเฉพาะหรืออุปกรณ์พิเศษ ใช้เพียงกล้องดิจิทัล ที่มาพร้อมกับสมาร์ตโฟนในปัจจุบันก็เพียงพอแล้ว อีกทั้งยังตอบโจทย์ยุคโควิด-19 ในการลดการสัมผัสอีกด้วย แค่มองกล้องระบบก็สามารถสแกนใบหน้าและยืนยันตัวตนได้แล้ว
Face Recognition มีความสำคัญต่อ eKYC อย่างไร?
พูดได้ง่ายๆ ว่า Face Recognition คือ หนึ่งในวิธีการยืนยันตัวตนที่เป็นมาตรฐานสำคัญของการทำ eKYC (Electronic Know Your Customer) หรือการยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ ได้กลายมาเป็นช่องทางหลักในการยืนยันตัวตนในยุคดิจิทัล ตั้งแต่ก่อนที่ธุรกิจจะเริ่มให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการยืนยันตัวตน โดยไม่ต้องเดินทางไปยังสาขาหรือสำนักงานผู้ให้บริการ อีกทั้งยังมีความปลอดภัยที่สูงกว่า เมื่อเทียบกับการกรอกข้อมูลลงเอกสารแบบดั้งเดิม
Face Recognition เป็นหนึ่งในวิธียืนยันตัวตนประเภท Biometric Authentication ซึ่งก็คือการใช้ข้อมูลทางชีวมิติอย่าง ใบหน้า แทนการเข้ารหัส อาทิ การเข้าแอปฯ Mobile Banking การเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ การสร้างบัญชี e-Wallet และ e-Payment รวมไปถึงการทำธุรกรรมออนไลน์ต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันมีธนาคารและผู้ให้บริการด้านธุรกรรมมากมาย หันมาให้บริการพิสูจน์ตัวตนด้วยการเปรียบเทียบใบหน้า (Facial Recognition eKYC) กันอย่างแพร่หลาย
ข้อดีของ Face Recognition ที่มีต่อธุรกิจในการทำ eKYC
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการ eKYC เข้ามาช่วยในการดำเนินการทางธุรกิจ ระบบ Face Recognition นั้นมีประโยชน์ในหลากหลายด้าน ดังนี้
- ยกระดับความปลอดภัย – ด้วยการสนับสนุนจากระบบ Facial Recognition ทำให้การป้องกันการขโมยข้อมูลหรือการปลอมแปลงตัวตนสามารถทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากข้อมูลใบหน้าเป็นลักษณะเฉพาะบุคคล ไม่เหมือนกับข้อมูลรหัสผ่าน (Password) ที่สามารถถูกขโมย หรือถูกแฮ็กได้ ทั้งธุรกิจและลูกค้าสามารถวางใจได้ว่าข้อมูลธุรกรรมจะไม่ถูกขโมยไปอย่างแน่นอน
- การประมวลผลที่รวดเร็ว – อย่างที่กล่าวไปข้างต้น การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาที สามารถลดระยะเวลาที่ลูกค้าต้องใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆ และลดการกรอกข้อมูลซ้ำๆ หรือการกดรหัสบ่อยๆ ซึ่งอาจมีโอกาสผิดพลาดได้นั่นเอง
- เชื่อมต่อกับระบบอื่นได้อย่างง่ายดาย – เทคโนโลยี Facial Recognition สามารถนำไปเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ ได้ง่าย ซึ่งอาจเป็นการเชื่อมต่อ API ของ eKYC service เข้ากับระบบ Front End ของธุรกิจ ทั้งยังไม่ต้องลงทุนเพิ่มมาก และใช้งานร่วมกับระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆ
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เทคโนโลยี Face Recognition นั้นถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน ทั้งในการใช้งานทั่วไป รวมถึงการทำธุรกรรมออนไลน์ หรือการยืนยันตัวตนดิจิทัลเพื่อเข้าใช้บริการออนไลน์ต่างๆ
บริการ eKYC จาก SCB TechX
สำหรับผู้ประกอบการที่พอจะทราบแล้วว่า Face recognition คืออะไร และกำลังสนใจในการนำ Face Recognition eKYC เข้ามาใช้งานกับธุรกิจ เพื่อสร้างความปลอดภัยและความสะดวกในการดำเนินการ ทาง SCB TechX มีบริการ eKYC ที่ครอบคลุมและชาญฉลาด พร้อมมีบริการให้คำปรึกษาและแนะนำโซลูชันที่เหมาะกับธุรกิจ โดยแบ่ง eKYC ที่แบ่งออกได้เป็น 4 ฟีเจอร์เด่น ดังนี้
1.Liveness & Optical Character Recognition (OCR)
บริการตรวจสอบผู้ใช้บริการกับบุคคลในบัตรประชาชนว่าเป็นบุคคลเดียวกันจริงหรือไม่ พร้อมเปลี่ยนภาพถ่ายบัตรประชาชนของผู้ใช้บริการให้เป็นข้อมูลดิจิทัลได้ทันที เพื่อลดขั้นตอนในการกรอกข้อมูลของผู้ใช้บริการและเจ้าหน้าที่
2.Liveness & Face Recognition
บริการตรวจสอบว่าผู้ใช้บริการกับบุคคลในภาพถ่ายเป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ โดยใช้ภาพถ่ายและระบบ Face Recognition เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับรูปในบัตรประชาชน
3.DOPA Gateway
ตรวจสอบข้อมูลบัตรประชาชนของผู้ใช้บริการว่าตรงกับฐานข้อมูลของกรมการปกครองหรือไม่
4.NDID Proxy
เชื่อมต่อแพลตฟอร์มดิจิทัลไอดีเพื่อยืนยันตัวตนแบบ Cross platform ช่วยให้ธุรกิจไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับ NDID โดยตรง ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่อและดูแลระบบ
หากสนใจ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Email: contact@scbtechx.io
ดูรายละเอียดบริการยืนยันตัวตน eKYC (e-KYC Thailand) คลิก
ติดตาม SCB TechX เพื่อข่าวสารและอัปเดตใหม่ๆ ก่อนใคร
Facebook: SCB TechX
Medium: medium.com/scb-techx
LinkedIn: www.linkedin.com/company/scb-tech-x/
YouTube: SCB TechX