เคยไหมคะ? ที่ต้องนั่งจ้องหน้าจออยุ่ในโลกของไฟล์ Groovy script , Terraform หรือ Ansible playbook ที่ยาวเหยียดเป็นกิโล มีความซับซ้อนเพื่อควบคุม CI/CD Pipeline ของเรา ไหนจะการเตรียม Infrastructure บน AWS, Azure งานเหล่านี้สนุกก็จริง แต่ก็เปลืองเวลาและพลังงานไม่น้อย
แต่จะดีแค่ไหน ถ้าเราสามารถเปลี่ยนจากการ “เขียน” ทุกอย่างด้วยตัวเอง มาเป็นการ “บอก” หรือ “อธิบาย” สิ่งที่เราต้องการ แล้วได้โค้ดที่พร้อมใช้งานกลับมา พร้อมเปลี่ยนบทบาทมาเป็น “Reviewer & Refiner” แทน และสิ่งนี้เอง คือแนวคิดของ Vibe Coding หรือ Natural Language DevOps ที่กำลังมาแรงในตอนนี้
Vibe Coding คืออะไร
เป็นแนวคิดการเขียนโค้ดรูปแบบใหม่ที่ใช้ ภาษาคน (Natural Language) ในการสื่อสารกับ AI coding assistant เพื่อให้ AI แปลงคำอธิบายเหล่านั้นออกมาเป็นโค้ดหรือสคริปต์แทน เราไม่ต้องจำ Syntax ที่ซับซ้อนอีกต่อไป แต่โฟกัสไปที่การรีวิว ปรับแก้ และทำให้โค้ดสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น มันคือการปลดแอกเราออกจากงานรูทีนที่ต้องทำซ้ำๆ ช่วยให้เราสร้างสรรค์และส่งมอบงานได้เร็วขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
ตัวอย่างเอามาใช้ในงาน DevOps ยังไงได้บ้าง ?
- Pipeline Groovy Script ที่ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์
DevOps ทุกคนคงคุ้นเคยดี เวลาต้องเพิ่ม stage ใหม่ใน Jenkinsfile ที่ซับซ้อน ต้องเริ่มจากการไปค้นหา Syntax ของ Declarative Pipeline, นึกถึงฟังก์ชัน Groovy ที่ต้องใช้, หรือเปิดหาโปรเจกต์เก่าๆ เพื่อดูว่าเขาเขียน Logic การเรียกใช้ หรือการทำ loop กันยังไง ซึ่งเสียเวลาและเสี่ยงต่อการเกิด Syntax error มาก
Vibe Coding : แค่เปิด IDE ที่มี AI coding assistant แล้วพิมพ์สิ่งที่ต้องการเป็นภาษาคน เช่น
“Create a Jenkins declarative pipeline with Maven build, SonarQube scan, and artifact archiving.”
AI จะสร้างโครง pipeline { … } ทั้งหมดมาให้ในไม่กี่วินาที พร้อมกับ stage และ steps ที่ถูกต้องตามหลัก Jenkins DSL หน้าที่ของ DevOps เปลี่ยนจากการเป็น “คนเขียน” มาเป็น “คนรีวิวและปรับแก้” (Reviewer & Refiner) ซึ่งมันลดเวลาและความผิดพลาดไปได้เยอะมาก
- Provision Infrastuture บน AWS, Azure ได้ทันใจวัยรุ่น
ต้องการเตรียม EKS Cluster + Node Group + IAM Role บน AWS ให้ทางโปรเจค ปกติต้องเขียน resource aws_eks_cluster ผูก IAM role ให้ถูกต้อง ทำ VPC, subnet, security group และ provision worker node group เชื่อมต่อกับ cluster ซึ่งใช้เวลาเยอะมาก แถมมี error เกิดขึ้นบ่อยๆ
Vibe Coding : อธิบายสิ่งที่ต้องการเป็นภาษาคนลงไป เช่น
“Provision an AWS EKS cluster with a VPC, node group, and IAM role.”
AI จะ generate โค้ดออกมาเป็นไฟล์ Terraform module ครบทั้ง VPC, Cluster, NodeGroup เรามีหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ security, policy และ best practice ก่อน พร้อมเทสและแก้ไขก่อน deploy ขึ้นไป
ข้อดีของการใช้ Vibe Coding
ช่วยประหยัดเวลาไปเยอะมาก ทำให้ DevOps เอาเวลามาโฟกัสเรื่องที่สำคัญกว่า เช่น
- Security & Compliance มีเวลามากขึ้นไปโฟกัสด้านความปลอดภัย ตรวจสอบ policy, IAM role, network config หรือทำ governance ได้ละเอียดขึ้น
- Monitoring & Optimization แทนที่จะเสียเวลาแก้สคริปต์ เราได้เวลามานั่งปรับ tuning ระบบ, monitor performance หรือทำ cost optimization ช่วยให้องค์กรได้ประโยชน์เต็มๆ
- Automation Strategy ออกแบบ flow CI/CD หรือ automation pipeline ระดับองค์กรได้ดีขึ้น ไม่ต้องเหนื่อยกับ manual script ที่น่าปวดหัว
สิ่งที่ควรระวังเวลาใช้ Vibe Coding
ถึง Vibe Coding จะช่วยให้ชีวิต DevOps ง่ายขึ้น แต่ก็มีบางเรื่องที่ต้องระวังเหมือนกันนะคะ
- Security Risk โค้ดที่ AI สร้างมา บางทีก็มีการเปิดสิทธิ์ที่เยอะเกินไป หรือ configuration แบบไม่ปลอดภัย (เช่น IAM policy) เพราะงั้น DevOps อย่างเรา ต้องรีวิวเรื่อง security ทุกครั้ง โดยเฉพาะ secret, network config, และ permission ต่างๆ
- Quality Assurance AI มักจะเขียนมาให้แบบโครงหลักๆ ซึ่งอาจจะ run ไม่ผ่าน หรือยังไม่ตรงกับระบบจริงทั้งหมด ดังนั้น อย่าลืมเทสเสมอ และปรับแก้ให้เข้ากับ infrastureture หรือ pipeline ของเรา
- Context สำคัญ AI ไม่รู้ว่าระบบเราใช้ structure แบบไหน เช่น network design, naming convention standard ที่วางไว้ หรือ policy ขององค์กร ถ้าอธิบาย requirement ไม่ชัด โค้ดที่ได้อาจไม่ตรงสิ่งที่เราต้องการเลย ดังนั้น บอกโจทย์ให้ละเอียดที่สุดเท่าที่ทำได้
Tools & IDEs ที่เหมาะกับ Vibe Coding
ปัจจุบันมีหลายเครื่องมือที่ช่วยให้ DevOps ทำงานแบบ Vibe ได้ เช่น:
- GitHub Copilot ตัวช่วยเขียนโค้ดจาก natural language (รองรับ Terraform, Groovy, Ansible)
- Cursor IDE หรือ VS Code + Extension IDE ที่ integrate AI assistant ได้ดี
- LLM-based Chat (Gemini, Claude, GPT-5) ใช้ร่าง IaC script, deployment logic หรือ CI/CD YAML
สุดท้ายแล้ว Vibe Coding ไม่ได้มาแทนที่ DevOps แต่เป็นเครื่องมือที่เข้ามาเสริมพลังให้เราทำงานได้ฉลาดขึ้นเร็วขึ้นและมีคุณภาพ ซึ่งประสบการณ์ของเรายังคงสำคัญ เราต้องเป็นคนออกแบบวางโครง ตรวจสอบความถูกต้องปลอดภัย ให้มีคุณภาพและ maintain ได้ง่ายอย่างเสมอ
ถ้าเรารู้จักใช้ให้เหมาะสม และใส่การรีวิวอย่างรอบคอบ AI จะช่วยให้ชีวิต DevOps “Vibe” ขึ้นเยอะเลย
ท้ายนี้หากองค์กรของท่านกำลังมองหาโซลูชันด้าน DevOps ช่วยปรับรูปแบบการทำงานให้เป็นอัตโนมัติ ลดต้นทุนการทำธุรกิจ SCB TechX พร้อมเป็นโซลูชันที่ช่วยพัฒนา และ Deliver ผลิตภัณฑ์และบริการออกสู่ตลาด ต่อยอดองค์กรของท่านให้เติบโตอย่างยั่งยืน
สนใจบริการโปรดติดต่อเราที่ https://bit.ly/4etA8Ym
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมคลิก https://bit.ly/4dpGl6U
