Job Skills ขอร่วมเฉลิมฉลอง Pride Month เดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาว LGBTQIAN+ ด้วยบทสัมภาษณ์คุณแจ็ค หรือ เจซซี่ Platform Service Manager ของสายงาน DevOps หรือ Platform Services ที่ SCB TechX ผู้แทนตัวอักษร G ที่มีสไตล์การทำงานคล่องแคล่ว เก่ง โดดเด่น กับ Mindset มองทุกวิกฤตเป็นโอกาสให้ได้เรียนรู้ และที่สำคัญด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวทำให้เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ชนิดที่ว่าไปเป็นวิทยากรที่ใดมักมีเพื่อนฝูงในวงการไปให้กำลังใจกันอย่างล้นหลามการันตีของดีแบบไม่ต้องพูดเยอะ J ใครกำลังสนใจทำงานสายเทคโนโลยี หรือคิดว่าเรามีความแตกต่างจะเข้ากับเพื่อนได้ไหม? ขอให้อ่านบทสัมภาษณ์นี้ให้จบ รับรองว่าจะได้สาระนำไปตัดสินใจเลือกสายงานและที่ทำงานได้เลย
โปรดช่วยแนะนำตัวให้เล็กน้อยนะคะ ว่าคุณแจ็คทำงานอะไร มาเริ่มต้นสายงานนี้ได้อย่างไร?
สวัสดีครับผม แจ็ค ครับ ถ้าถามว่าเริ่มต้นสายงานนี้ได้อย่างไร ก็ต้องบอกว่าเริ่มจากความไม่ชอบการเขียนโค้ดครับ จึงเริ่มต้นด้วยการเป็น System Engineer ยุคนั้นยังมีการแบกเครื่อง Server หนัก ๆ กันอยู่เลย แต่หลังจากที่ Cloud and Microservices เข้ามา ผมก็ผันตัวเองมาทำงานด้าน DevOps ก็สะสมประสบกรณ์ด้านนี้มา 8 ปี จนปัจจุบัน ทำงานในตำแหน่ง Platform Service Manager ครับ ในส่วนงานหลัก ๆ ของเราคือออกแบบ และดูแลระบบทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการพัฒนา Software ให้มีความรวดเร็วในการส่งมอบงานที่ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัย โดยเฉพาะบนระบบ Cloud Provider หลัก ๆ เช่น AWS, Azure, GCP และ Huawei ครับ และนอกจากความท้าทายในการทำงานบน Platform ที่หลากหลายแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ท้าทายคือทัศนคติที่แตกต่างกันเมื่อเราต้องทำงานกับคนเยอะๆครับต้องออกตัวก่อนเลยว่า ผมเองเป็นเกย์ และเพื่อน ๆ ในวงการต่างตั้งนามแฝงให้ผมว่า “เจซซี่” ส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างเป็นคนสร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบข้าง จึงเข้ากับคนอื่นได้ไม่ยาก การมีเพื่อนร่วมงานที่ดี ยอมรับเราในด้านความรู้ความสามารถ มองข้ามเรื่องภายนอกและเข้าใจในสิ่งที่เราเป็น ผมว่ามันเป็นอะไรที่เริ่ดมาก ๆ ครับ และผมหาสิ่งเหล่านี้ได้จริงๆที่ SCB TechX
งานหลักที่ Focus อยู่เป็นประจำคืองานใด มีขั้นตอนการทำงานอย่างไรบ้างคะ?
สำหรับ ตำแหน่ง Platform Service ชื่อค่อนข้างตรงตัวเลยครับ ว่าเราจะต้อง Provided Services ที่รันอยู่บน Platform ให้มีความพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา พร้อมให้ End User เข้าใช้งาน Cloud Features ได้ง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องใช้ Effort ในการเรียนรู้ด้าน Technical เยอะ นอกจากนี้จะต้องแบ่งเวลาเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพิ่มเติม เพื่อให้เราพร้อมช่วยเหลือ End User ในการ Adopt Services ต่าง ๆให้ดียิ่งๆขึ้นไปด้วยครับ
งานไหนที่คุณแจ็ครู้สึกภาคภูมิใจมากที่สุด? เพราะอะไร?
จริง ๆ รู้สึกภูมิใจเรื่องของโอกาสมากกว่าครับ ที่ผู้ใหญ่ มองเห็นความสามารถของเราและมอบโอกาสดี ๆ ให้ เช่น ล่าสุด XPlatform ซึ่งเป็นผลิตผลของทีมนั้น ก็ได้รับการสนับสนุนส่งเสริมจาก คุณตรัยรัตน์ สุวรรณประทีป CEO SCB TechX ให้ได้มีโอกาสไปสร้าง Value ให้แก่องค์กร ซึ่งทีมค่อนข้างตื่นเต้นและมีความยินดี ที่สิ่งที่ทีมร่วมเหนื่อยมาด้วยกัน วันหนึ่งมันจะสร้าง Value ได้จริง ๆ และที่สำคัญผลิตผลเหล่านั้นจะช่วยให้ชีวิตการทำงานของพี่น้องชาวไอทีของเราทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยครับ
กว่าคุณแจ็คจะเก่งเคยเจ็บจากเหตุการณ์อะไรมาก่อนไหม หรือเคยมีจุดเปลี่ยน Turning Point อะไรให้กลายเป็นคุณแจ็คในวันนี้คะ?
ต้องบอกว่า ไม่มีงานไหนง่าย ความสำเร็จในชีวิตก็เช่นกัน เวลาทำงานผมไม่ได้มองว่าผมทำงานให้บริษัท แต่ผมมองว่าผมทำงานให้ได้ผลที่น่าพอใจสำหรับผู้ใช้งาน และตัวผมเอง เพราะฉะนั้นงานแต่ละงาน ผมมักทำให้เกินมาตรฐานที่เคยทำได้เสมอ แต่ทั้งนี้มาตรฐานของคนเราไม่เท่ากัน มันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และโอกาสของเรา ก่อนหน้านี้ผมก็เคยร้องไห้ เพราะความกดดันที่อยากจะเอาชนะตัวเอง และเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเราก็สามารถทำได้เหมือนคนอื่น ๆ อย่างช่วงแรก ๆ ที่ผมเริ่มทำงานด้าน DevOps ผมได้รับมอบหมายงาน Migrate Core Service ของบริษัท ให้นำขึ้นระบบ Cloud ในรูปแบบของ Replatform จาก Virtual Machine to Containerized Application ซึ่งตอนนั้น Kubernetes ยังเป็น Beta Version ที่หลาย ๆ Components ได้ถูกสร้างขึ้นมาจากการ R&D ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยมาก ๆ แล้วเมื่อถึงวัน Present Final Solution คณะกรรมการ สรุปว่าผมยังขาดข้อมูลอีกหลาย ๆ ด้าน จำได้กลับมาร้องไห้อยู่หลายวัน แต่หลังจากนั้น ผมก็เอางานกลับมาแก้ จนสามารถนำ Service ขึ้น Cloud ได้จริง ๆ ความรู้สึกนั้นผมไม่มีวันลืม ผมนั่งยิ้มทั้งวันกับความสำเร็จเล็ก ๆ นั้น และผมได้เรียนรู้ว่าไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ เราต้องลงทุนกับมันก่อน ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ผมจึงพยายามให้โอกาสคนอื่นเสมอ เพื่อให้คนอื่นได้สัมผัส Moment แห่งความสำเร็จในชีวิตเอาไปเล่า เอาไปบอกต่อคนอื่น ๆ ต่อไป
ถ้าอยากเติบโตในสายงานนี้แบบ คุณแจ็คบ้าง ควรเตรียมตัวอย่างไรคะ?
ส่วนตัวผมเชื่อเรื่อง “เวลาและโอกาส” ซึ่งหลาย ๆ ครั้งที่ “โอกาส” มักวิ่งเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว ทุกอย่างจบที่ Mindset ถ้ามองวิกฤติให้เป็นโอกาส เราก็จะกล้าท้าชนกับปัญหา เพราะปัญหาคืออาจารย์ที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นผมแนะนำเริ่มต้นจากการปรับ Mindset ว่าคุณจะต้องไม่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว พยายามติดตามข่าวสารของเทคโนโลยี ไม่มากก็น้อยในแต่ละวัน จาก Social Media ก็ได้ เมื่อเราทำมันทุกวัน มันจะกลายเป็นนิสัยโดยปริยาย เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในที่ทำงาน เราจะสามารถใช้ความรู้ หรือ Solution ต่าง ๆ จากการเสพข่าวสารมาใช้ในที่ทำงานได้จริง (ผมทำแบบนั้นอยู่) ส่วนของ Skill Set ที่จำเป็นสำหรับสายงานด้าน Platform Engineer คือ Skill ของ DevOps Engineer ครับ เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติมจะเป็นส่วนของความเข้าใจหลักการของการ Implement DevOps Culture ก่อน จากนั้นค่อนเสริมด้วยการเข้าใจกระบวนของ SDLC และ Technology Stack ตามลำดับครับ ค่อนข้างต้องเรียนรู้เยอะมาก แต่รับรองว่าสนุก เพราะตำแหน่งนี้จะเข้าใจการทำงานของกลุ่มคนทั้ง 2 โลก คือ โลก ของ Developer และ Operation Model ครับ
อยากให้ช่วยแชร์ว่าสังคมการทำงานที่ SCB TechX เป็นแบบไหนคะ?
ผมกล้าพูดได้เลยว่า SCB TechX เป็นสังคมการทำงานที่หาได้ยากในประเทศไทย คุณสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างอิสระ โดยที่คุณจะไม่รู้สึกว่ามีใครมาจับจ้องในการแสดงออกของเรา ทุกคนที่นี่ยอมรับความแตกต่าง และหลากหลายมาก ๆ สำหรับเรื่องเนื้องานเองหัวหน้าให้โอกาสในการทำงานเสมอ เปิดรับฟังความคิดเห็น และมี Action ตามมาเสมอหลังได้รับ Feedback และโดยเฉพาะทีม HR ที่ไม่เหมือนกับที่อื่นจริง ๆ ปกติทีม HR จะรอให้พนักงานเข้าไปหา เข้าไป Feedback แต่ HR ที่นี่เข้าหาพนักงาน คุยงาน ตามงานให้จริง และที่โดดเด่นมาก ๆ คือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงใดในสังคมไทย HR จะมีแนวทางปฏิบัติมาแจ้งเพื่อให้พนักงานเตรียมรับมือเสมอ เพราะฉะนั้น อยากให้ทุกคนเลือก SCB TechX แล้วคุณจะรู้ว่า สังคมชีวิตการทำงานของคุณจะไม่เหมือนเดิม ขอบคุณครับ 🙂
