ธุรกิจยุคใหม่ต้องมีการปรับตัวอยู่เสมอ ด้วยกระแสสังคมและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องหาโซลูชั่นใหม่ ๆ มาแก้ปัญหาโดยเฉพาะปัญหาในเรื่องข้อมูลของลูกค้า เพราะยิ่งธุรกิจเติบโตและมีลูกค้ามากเพียงใด จำนวนข้อมูลของลูกค้าที่ต้องจัดการก็จะเพิ่มตามไปด้วย ซึ่งการจัดข้อมูลของลูกค้าจะช่วยให้ธุรกิจมีฐานข้อมูลที่เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น ทำให้สะดวกต่อการนำข้อมูลไปวิเคราะห์ เพื่อทำการตลาด หรือเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ ๆ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลภายในธุรกิจก็สำคัญต่อการดำเนินการเช่นกัน เช่น ข้อมูลสินค้าในคลังสินค้า และข้อมูลของพนักงาน
เมื่อข้อมูลเหล่านี้มาจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายกัน ธุรกิจจะมีวิธีการจัดการอย่างไร ? วันนี้ SCB TechX ขอแนะนำให้รู้จักกับ ETL หนึ่งในโซลูชันการจัดการข้อมูลที่ธุรกิจควรมีเอาไว้
ETL คืออะไร ? โซลูชั่นสำหรับธุรกิจยุคใหม่
ETL คือ ชื่อย่อที่มาจากคำว่า Extract, Transform และ Load โดย ETL Process คือ กระบวนการรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งไปเก็บไว้ในที่เดียวกัน หรือที่เรียกว่าคลังข้อมูล ETL จากนั้นจึงทำการจัดระเบียบข้อมูลดิบที่ได้มาทั้งหมด และเตรียมข้อมูลสำหรับไปใช้ต่อ หรือ ไปใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งมีลำดับการทำงาน ดังนี้
- Extract
เป็นการแยกหรือคัดลอกข้อมูลดิบ (raw data) จากหลายแหล่งต่างๆและจัดเก็บไว้ในพื้นที่จัดเตรียม (Landing Zone) โดยที่กระบวนการแยกข้อมูลเราสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 แบบ คือ- Update notification หรือข้อมูลมีการอัพเดทจากแหล่งข้อมูลเพื่อทำการ extract ข้อมูลใหม่โดยทันที
- Incremental extraction หรือข้อมูลมีการเพิ่มขึ้นจากแหล่งข้อมูล กระบวนการ extract จะเกิดขึ้นตามเวลาที่เรากำหนดเพื่อที่นำข้อมูลใหม่เข้าระบบเช่น ทุกๆ วัน สัปดาห์ เป็นต้น
- Full extraction คือการทำกระบวนการ extract จากแหล่งข้อมูลที่เราต้องการนำเข้าระบบทั้งหมด โดยจะเป็นข้อมูลใหม่ หรือ เข้าไปแทนข้อมูลเดิมที่อยู่ในพื้นที่จัดเก็บ
- Transform
เมื่อแยกข้อมูลเสร็จสิ้นแล้ว ต่อมาคือการแปลงข้อมูล เช่น การแปลงให้ข้อมูลที่มีความซับซ้อนให้เข้าใจง่ายขึ้น กำจัดข้อมูลซ้ำซ้อนที่ไม่จำเป็น และลบข้อมูลที่ผิดพลาด เป็นต้น ซึ่งกระบวนการ Extract และ Transform จะขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจมีเกณฑ์การจัดการกับข้อมูลอย่างไร เพราะบางข้อมูลอาจจำเป็นสำหรับธุรกิจหนึ่ง แต่ไม่จำเป็นสำหรับธุรกิจหนึ่ง หรือในกรณีที่บางธุรกิจจำเป็นต้องวิเคราะห์ข้อมูลรายสัปดาห์ ขณะที่บางธุรกิจเหมาะสมกับการวิเคราะห์ข้อมูลรายได้มากกว่า - Load
หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการข้างต้นแล้ว ต่อมาคือการโหลดข้อมูลเข้าไปเก็บไว้ในแพลตฟอร์มจัดเก็บข้อมูล เช่น Cloud Data Warehouse เพื่อให้ข้อมูลไม่สูญหายและสามารถนำกลับมาวิเคราะห์ได้เมื่อต้องการ
ประโยชน์ของการทำ ETL
1. เข้าใจลูกค้ามากขึ้น
เมื่อเข้าใจลูกค้ามากขึ้น ธุรกิจจะสามารถตีโจทย์ได้ง่ายขึ้นด้วยว่าลูกค้ากำลังต้องการอะไร สนใจอะไร และใครแบบไหนที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าประจำ
2. เข้าใจสินค้าหรือบริการของตนเอง
การทำความเข้าใจสินค้าก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการทำความเข้าใจลูกค้า เพราะจะทำให้ธุรกิจมองเห็นจุดเด่นและจุดด้อยของสินค้า ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจนำจุดเด่นมาพัฒนาต่อยอดและนำจุดด้อยมาปรับปรุงให้ดีกว่าเดิมได้
3. เข้าใจการบริหารภายใน
การเข้าใจกระบวนการทำงานภายในของฝ่ายต่าง ๆ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงวิธีการภายในได้ เช่น ของในคลังสินค้าเสียหายบ่อย ๆ การทำความเข้าใจกระบวนการภายในจะชี้ให้เห็นว่าปัญหาดังกล่าวมาจากจุดไหน และสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
4. เข้าใจพนักงาน
ประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานมีผลต่อผลประกอบการโดยรวมของบริษัท การทำความเข้าใจพนักงานจะช่วยให้องค์กรปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานได้ เช่น การป้องกันไม่ให้ทีมใดทีมหนึ่งแบกรับงานเกินความสามารถ การเสริมสร้างความสุขและสกิลใหม่ ๆ ให้กับพนักงาน เป็นต้น
วิวัฒนาการของ ETL
กว่าจะมาเป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจอย่างในทุกวันนี้ ETL ก็ถูกพัฒนามาไม่น้อย ซึ่งสามารถแบ่งงอกได้ 2 รุ่น ดังนี้
ETL รุ่นเก่า
ด้วยความที่เทคโนโลยีในการบันทึกและจัดเก็บข้อมูลยังไม่พัฒนามากนัก กระบวนการ ETL รุ่นเก่าจึงใช้วิธีการบันทึกข้อมูลอย่างการพิมพ์ลงใน Spredsheet ซึ่งในตอนนั้นยังไม่มีอัลกอริทึมที่สามารถตรวจจับความซ้ำซ้อนของข้อมูลได้ ทำให้มนุษย์ต้องประมวลผลข้อมูลที่ซ้ำซ้อนและจัดประเภทของข้อมูลด้วยตนเอง จึงส่งผลให้ชุดข้อมูลมีความผิดพลาดค่อนข้างสูง และส่งผลให้การวิเคราะห์ข้อมูลมีข้อผิดพลาดตามไปด้วย
นอกจากนี้ เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลในอดีตก็มีให้เลือกไม่มากนัก หากอยากจัดเก็บข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ก็ต้องอาศัยการบันทึกลงในอุปกรณ์จัดเก็บบางชนิด เช่น แฟลชไดรฟ์ ซึ่งมีความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลต่ำ และเสี่ยงต่อการสูญหาย
ETL รุ่นใหม่
เมื่อเทคโนโลยีในปัจจุบันพัฒนามากยิ่งขึ้นแล้ว ส่งผลให้การจัดเก็บข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ และการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากทำได้ไม่ยาก ใช้เวลาไม่นานเท่าเดิม การประมวลผลข้อมูลและการวิเคราะห์ชุดข้อมูลก็มีความแม่นยำมากขึ้น ในส่วนของคลาวด์ หรือระบบจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่บนระบบออนไลน์ ก็มีความปลอดภัยมากกว่า ดึงข้อมูลมาใช้กับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น ๆ ได้ง่าย และป้องกันความเสี่ยงจากการสูญหายของข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าด้วย
สำหรับผู้ที่ดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับ ETL ในบริษัทเราจะเรียกว่า ETL Developer ซึ่งในบางบริษัทอาจมีการจ้างงานตำแหน่งนี้แบบประจำไปเลย หรือบางบริษัทก็อาศัยการจ้างฟรีแลนซ์ โดย SCB TechX เองก็มีบริการโซลูชั่น ETL อยู่ด้วยเช่นกัน โดย SCB TechX ให้บริการด้าน Data Platform ทั้งรูปแบบ Platform as a Service และ Software as a Service ไปจนถึงการออกแบบโซลูชันให้เหมาะสมกับแต่ละธุรกิจ ที่มีเป้าหมาย, ความต้องการ และทรัพยากรแตกต่างกัน
TechX Data Platform จาก SCB TechX
ในยุคดิจิทัลที่ธุรกิจต้องอาศัย “ข้อมูล” เพื่อสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด โดยเฉพาะการเข้ามาของ Big Data ที่มีข้อมูลจำนวนมากเกิดขึ้นตลอดเวลา อาจทำให้ธุรกิจไม่สามารถจัดการกับข้อมูลในรูปแบบเดิมๆ ได้อีกต่อไป ดังนั้น SCB TechX จึงได้คิดค้นพัฒนาแพลตฟอร์มการจัดการข้อมูลแบบครบวงจร TechX Data Platform ขึ้น เพื่อช่วยตอบโจทย์ แก้ปัญหา และนำเสนอโซลูชันให้แก่ธุรกิจได้อย่างตรงจุดครอบคลุมรอบด้าน
บริการ TechX Data Platform จาก SCB TechX คือ โซลูชันสำหรับองค์กรที่เข้ามาช่วย บริหาร เก็บรวบรวม วิเคราะห์ และนำข้อมูลไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชั้นนำของเมืองไทย
ทำไมต้องเลือก TechX Data Platform?
- One-Stop Solution สำหรับธุรกิจ
บริการ Data Platform ของเราครอบคลุมทุกโซลูชันด้านการจัดการข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น การบริหารจัดการข้อมูล (Data Management) การรวบรวมข้อมูล ( Data Integration) การจัดเก็บข้อมูล (Data Storage) การดูแลระบบฐานข้อมูล (Data Administration) การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) ไปจนถึงการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล (Governance Security) ด้วยเทคโนโลยีชาญฉลาดอย่าง AI และ Machine Learning ยกระดับประสิทธิภาพการทำ Data Analysis ขึ้นไปอีกขั้น - Tailor-Made เพื่อทุกธุรกิจทุกขนาด
TechX Data Platform เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถปรับแต่ง (Customize) ให้เหมาะสมกับความต้องการใช้ข้อมูลของธุรกิจทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นสตาร์ทอัพ เอสเอ็มอี (SME) หรือองค์กรใหญ่ ปรับแต่งได้ตามความต้องการ ธุรกิจจึงสามารถจัดการข้อมูลที่ทันสมัยและเหมาะสมกับขนาดองค์กรที่สุด - Low-Code Solution เข้าถึงง่าย
Data Platform สามารถเชื่อมต่อเข้ากับซอฟต์แวร์หรือระบบต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้ธุรกิจโอนข้อมูล พร้อมทำงานร่วมกับเครื่องมือที่ธุรกิจคุ้นเคยอยู่แล้วได้ เช่น Power BI หรือ Tableau ได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ Data Platform เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานง่าย ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียน Code มาก ก็สามารถใช้งานแพลตฟอร์ม และเข้าถึงข้อมูลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ - ปลอดภัยและเชื่อถือได้
SCB TechX ร่วมมือกับผู้ให้บริการด้านข้อมูลและคลาวด์ชั้นนำระดับโลก เช่น Databricks, AWS, Microsoft Azure และ Google Cloud Platform อีกทั้งได้รับใบรับรองมาตรฐานสากล ISO/IEC 27001:2013 ด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ จึงมั่นใจได้ในการดูแลความปลอดภัยของข้อมูล (Security and Reliability)
นอกจากนี้ TechX Data Platform ยังพร้อมรองรับการจัดการข้อมูลตามกรอบการกำกับดูแลข้อมูล (Data Governance Framework) และพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (PDPA) ให้แก่ลูกค้าด้วย
หากสนใจดูรายละเอียดบริการ แพลตฟอร์มการจัดการข้อมูล TechX Data Platform (คลิก)
สอบถามบริการด้าน Data Platform, บริการ eKYC และ โซลูชันอื่นๆเพิ่มเติม ได้ที่ Email: contact@scbtechx.io
ติดตาม SCB TechX เพื่ออัปเดตข่าวสารใหม่ๆ ก่อนใคร
Facebook: SCB TechX
Medium: medium.com/scb-techx
LinkedIn: www.linkedin.com/company/scb-tech-x/
YouTube: SCB TechX