
เวลาทีม DevOps ต้องคอยดูแลระบบ เช่น การปล่อยโค้ดขึ้นเซิร์ฟเวอร์ การตรวจสอบระบบ หรือการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นแบบเร่งด่วน ขั้นตอนเหล่านี้จะเต็มไปด้วยโค้ดยาว ๆ และสคริปต์ซับซ้อน เมื่อก่อนพี่เองก็มองว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก และทำได้เฉพาะคนที่เก่งเทคโนโลยีจริง ๆ เท่านั้น แต่พอได้รู้จักกับ Low-Code และ No-Code DevOps ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเลย มันเหมือนมีผู้ช่วยที่ทำให้เรื่องยาก ๆ กลายเป็นเรื่องง่ายและจับต้องได้มากขึ้น
Low-Code และ No-Code คืออะไร?
– Low-Code คือการใช้เครื่องมือช่วยให้การเขียนโค้ดนั้นลดลงเยอะ และช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น
– No-Code: คือไม่ต้องเขียนโค้ดเลย ใช้การลากวาง คลิกเลือก กำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ผ่านหน้าจอแทน
สรุปง่าย ๆ ก็คือ จากเดิมที่ต้องนั่งพิมพ์ตัวหนังสือเต็มจอ ตอนนี้เปลี่ยนเป็น “กดเลือก ลากวาง” เหมือนต่อบล็อกของเล่นก็ทำให้งานสำเร็จและเร็วขึ้นมาก
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ
ถ้าทีมพี่เจอปัญหา เวลาอัปเดตโปรแกรมขึ้นระบบ (Deployment) ปกติต้องนั่งเปิด Log หาสาเหตุเอง แล้วค่อยแจ้งทีมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งใช้เวลานานและเสียโอกาสหลายอย่าง แต่พอพี่ลองนำเครื่องมือ No-Code มาช่วย เช่น ตั้ง Workflow ง่าย ๆ ว่า: หากระหว่าง Deploy มี Error → ให้สร้าง Ticket แจ้งอัตโนมัติในระบบ Jira และส่งข้อความเข้ากลุ่มแชททีมทันที ซึ่งวิธีการทำงานก็เพียงแค่ใช้ Tool อย่าง Zapier หรือ Power Automate ที่มี Template สำเร็จรูปเยอะ นำมาลากวางไม่กี่ขั้นตอน ก็ได้ Flow ตามต้องการแบบอัตโนมัติที่ไม่ต้องเขียนโค้ดสักบรรทัด พี่ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงในการตั้งค่า และหลังจากนั้นทีมก็ไม่ต้องเสียเวลานั่งตามแก้ Manual เองอีกต่อไป

ตัวอย่าง No-Code Tools ที่ช่วยสร้าง Flow DevOps ได้
• Zapier: เหมาะกับงานเชื่อมระบบ SaaS (เช่น Jira, Slack, Teams, GitHub)
มีหน้าจอให้ลากวางเงื่อนไข เช่น “If Error → Then Create Ticket”
ใช้งานง่ายมาก ไม่ต้องมีพื้นฐานโค้ดเลย
• Microsoft Power Automate อยู่ใน Microsoft 365 เหมาะกับองค์กรที่ใช้ Teams, Outlook, Azure DevOps มี Connector สำเร็จรูปเยอะ เช่น Jira, GitHub, Azure Monitor เหมาะกับการทำ Automation ในองค์กร
• n8n (อ่านว่า เอ็น-เอท-เอ็น) เป็น Open Source ที่เราติดตั้งเองได้ มี Workflow Editor แบบลากวาง และรองรับ DevOps Tools เช่น GitHub, Jenkins, Jira ยืดหยุ่นมาก เหมาะกับทีม DevOps ที่อยากควบคุมเอง
• IFTTT (If This Then That) เหมาะกับ Flow ง่าย ๆ เช่น “ถ้ามี Error → ส่งแจ้งเตือนเข้า LINE” Tool นี้ใช้งานง่ายสุด ๆ ไม่ซับซ้อนเท่า Zapier หรือ Power Automate
ข้อดีที่เห็นชัดเจน
- เร็วขึ้น– จากงานที่เคยใช้เวลาทั้งวัน เหลือแค่ไม่กี่ชั่วโมง
- ลดภาระ– ไม่ต้องให้โปรแกรมเมอร์มานั่งทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ
- ทุกคนเข้าถึงได้ – แม้ไม่ใช่สายเทคโนโลยีก็เข้าใจและใช้งานได้
- แก้ปัญหาไว – ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง ก็แค่ปรับ Workflow บนหน้าจอ ไม่ต้องเขียนโค้ดใหม่ทั้งหมด
สรุปจากพี่ถึงน้อง
Low-Code และ No-Code DevOps ไม่ได้มาแทนโปรแกรมเมอร์นะ แต่มันเหมือนเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ทีม DevOps ทำงานได้ง่ายขึ้น คล่องตัวขึ้น และเปิดโอกาสให้ทุกคนในทีมมีส่วนร่วมได้มากขึ้นด้วย
ลองจินตนาการดูว่า ถ้าวันหนึ่งน้องอยากสร้างกระบวนการเล็ก ๆ มาช่วยทีมโดยไม่ต้องง้อโค้ดเลย ทุกคนจะทำงานสะดวกและรวดเร็วขึ้นแค่ไหน และนั่นทำให้เป็นจริงได้แล้วด้วย Low-Code และ No-Code DevOps ที่ทำให้เรื่องยากกลายเป็นเรื่องง่าย
ท้ายนี้หากองค์กรของท่านกำลังมองหาโซลูชันด้าน DevOps ช่วยปรับรูปแบบการทำงานให้เป็นอัตโนมัติ ลดต้นทุนการทำธุรกิจ SCB TechX พร้อมเป็นโซลูชันที่ช่วยพัฒนา และ Deliver ผลิตภัณฑ์และบริการออกสู่ตลาด ต่อยอดองค์กรของท่านให้เติบโตอย่างยั่งยืน
สนใจบริการโปรดติดต่อเราที่ https://bit.ly/4etA8Ym
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมคลิก https://bit.ly/4dpGl6U