สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้กำหนดให้ KYC/ eKYC เป็นส่วนหนึ่งของ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยเป็นการกำหนดให้สถาบันทางการเงินต่าง ๆ มีการจัดทำ KYC/ eKYC เพื่อสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมของผู้บริโภค
ปัจจุบันประเทศไทยมีมาตรฐานการพิสูจน์และยืนยันตัวตนที่เรียกว่า eKYC (Electronic know your customer) ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบของการทำ Digital Onboarding เพื่อทำธุรกรรมออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยนั้นการทำ eKYC นั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งถ้าหากองค์กรใดที่ไม่มีการทำ eKYC มักจะมีผลกระทบต่าง ๆ ตามมา ดังนี้
- องค์กรขาดความน่าเชื่อถือ เนื่องจากไม่มีการพิสูจน์ตัวตนลูกค้า
- ขาดโอกาสในการในการดำเนินการธุรกิจใหม่ ๆ ที่ต้องมีการติดต่อกับภาครัฐ เช่น กรมสรรพากร ที่ต้องมีการกำหนดให้องค์กรหรือธุรกิจนั้น ๆ ต้องมีการรู้จักตัวตนลูกค้า
- เพิ่มความเสี่ยงในการเกิด fraud เช่น การโจรกรรมทางการเงิน หรือการปลอมแปลงตัวตนของผู้ทำธุรกรรม
- มีต้นทุนทางด้านเอกสาร การจัดเก็บเอกสาร และด้านแรงงาน
- มีความเสี่ยงในการเกิด human error ที่ส่งผลต่อความถูกต้องของการกรอกข้อมูล เนื่องจากว่าไม่ได้มีการนำข้อมูลที่ลูกค้ากรอกไปตรวจสอบกับระบบหลังบ้านเพื่อตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง
- ขาดโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจเนื่องจากลูกค้าไม่ได้รับความสะดวกสบายในการรับบริการ เพราะลูกค้าต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพื่อไปยืนยันตัวตนยังจุด touch point ส่งผลให้เกิดความยุ่งยาก และอาจทำให้ลูกค้าไม่พึงพอใจในการให้บริการได้
หากองค์กรหรือธุรกิจใดสนใจระบบยืนยันตัวตน eKYC ของ SCB TechX เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษา พร้อมทั้งช่วยประเมินความพร้อมของระบบในการใช้งาน eKYC โดยสามารถติดต่อเราได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
Email: contact@scbtechx.io
Website: https://scbtechx.io/ekyc/
Facebook: https://www.facebook.com/scbtechx/
LinkedIn: www.linkedin.com/company/scb-tech-x/
Medium: https://medium.com/scb-techx