Digital Transformation ปรับธุรกิจให้มีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

ไทย

Digital Transformation ปรับธุรกิจให้มีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

การเติบโตอย่างรวดเร็วของโลกเทคโนโลยีทำให้องค์กรมากมายต้องปรับตัวตาม เพื่อมองหาโอกาสใหม่ๆ และให้สามารถแข่งขันทางธุรกิจได้ในยุคดิจิทัล โดยหนึ่งในกระบวนการปรับตัวที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเรียกว่า การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล (Digital Transformation) ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น 

 

ในบทความนี้ SCB TechX จะพามาทำความรู้จักกับ Digital Transformation รวมถึงองค์ประกอบในการปรับเปลี่ยน และข้อดีของการเปลี่ยนผ่านจากระบบแอนะล็อก (Analog) สู่ดิจิทัล (Digital) 

Digital Transformation คืออะไร

Digital Transformation คือ การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับองค์กร ตั้งแต่การวางรากฐาน ปรับเปลี่ยนกระบวนการ นโยบาย กลยุทธ์ ไปจนถึงการขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กร ยกตัวอย่างเช่น

- ระบบ e-Learning สำหรับการอบรมพนักงาน

Digital Transformation คือ การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับองค์กร ตั้งแต่การวางรากฐาน ปรับเปลี่ยนกระบวนการ นโยบาย กลยุทธ์ ไปจนถึงการขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กร ยกตัวอย่างเช่น

- ฐานข้อมูลกลางสำหรับพนักงานแผนก Customer Service

การเก็บข้อมูลความรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการไว้ในฐานข้อมูลกลาง เช่น ระบบ CRM หรือแม้แต่บนระบบ Cloud ช่วยให้พนักงาน Customer Service เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย และสามารถตอบคำถามหรือข้อสงสัยของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

- หันมาใช้งานเอกสารดิจิทัลแทนกระดาษ

ช่วยให้การทำงานในองค์กรยืดหยุ่นมากขึ้น ด้วยการเก็บเอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกกันว่า E-Document 

ช่วยให้การทำงานในองค์กรยืดหยุ่นมากขึ้น ด้วยการเก็บเอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกกันว่า E-Document 

5 องค์ประกอบ Digital Transformation

การทำ Digital Transformation ให้ประสบความสำเร็จจะต้องอาศัยองค์ประกอบสำคัญ 5 ประการ ดังนี้

1. กลยุทธ์ (Strategy)

อันดับแรก ธุรกิจจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับการทำ Digital Transformation โดยผู้บริหารต้องเข้าใจถึงสถานะปัจจุบันของบริษัท ก่อนจะทำการวิเคราะห์และกำหนดเป้าหมายในอนาคตขององค์กรให้ชัดเจน แล้วจึงวางแผนกลยุทธ์ที่จะช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายนั้นๆ ได้สำเร็จ

2. ทรัพยากรบุคคล (People)

ทรัพยากรบุคคลภายในองค์กรเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างมากในการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ดิจิทัล เพราะการใช้เทคโนโลยีก็ยังคงจำเป็นต้องใช้ ‘คน’ ในการขับเคลื่อนระบบต่างๆ ดังนั้นบุคลากรจึงต้องมีความพร้อมในการปรับตัวร่วมไปกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับองค์กร และมีทัศนคติที่ดีต่อการใช้เทคโนโลยี โดยบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีและการเข้าถึงข้อมูลจะช่วยเพิ่มโอกาสให้องค์กรประสบความสำเร็จในการทำ Digital Transformation มากยิ่งขึ้น

3. วัฒนธรรมองค์กร (Corporate Culture)

ในการทำ Digital Transformation ตัวองค์กรเองก็ควรส่งเสริมวัฒนธรรมที่เปิดรับต่อการเปลี่ยนแปลง หรือพร้อมต่อการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพราะวัฒนธรรมองค์กรสามารถส่งเสริมบุคลากรภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีส่วนช่วยในการผลักดันบุคลากรขององค์กรให้มีแนวคิด และทัศนคติที่พร้อมเปิดใจกับการใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งผู้นำควรริเริ่มเป็นแบบอย่างให้กับคนในองค์กรได้เห็น เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้กับคนภายในองค์กร

4. เทคโนโลยี (Technology)

การทำ Digital Transformation จำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือที่มีเทคโนโลยีเหมาะสม ซึ่งต้องพิจารณาความเหมาะสมร่วมกับกลยุทธ์ใหม่ เป้าหมาย และความพร้อมด้านต่างๆ ขององค์กร

5. การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics)

ในกรณีที่องค์กรมีเทคโนโลยีจัดเก็บ จัดการ และนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งข้อมูลเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จกับการทำ Digital Transformation เพราะการวิเคราะห์ข้อมูลจะช่วยชี้ให้เห็นว่ากระบวนการส่วนไหนในการทำงานจำเป็นต้องได้รับการพัฒนา และช่วยในการวัดผลก่อน-หลังในการพัฒนากระบวนการนั้นๆ ได้อย่างชัดเจน

ข้อดีของ Digital Transformation

ข้อดีของ Digital Transformation

การทำ Digital Transformation มีประโยชน์ต่อองค์กรในหลากหลายด้าน ได้แก่

1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

  • ลดการทำงานซ้ำซ้อน: เทคโนโลยีอัตโนมัติต่างๆ จะช่วยลดการทำงานซ้ำซ้อน เช่น การใช้ระบบ Chatbot ตอบคำถามของลูกค้าที่พบบ่อย ช่วยให้พนักงานสามารถโฟกัสงานสำคัญในส่วนอื่นๆ ได้มากขึ้น
  • เพิ่มประสิทธิภาพ: เทคโนโลยีที่จะช่วยให้ทำงานได้เร็วและแม่นยำขึ้น เช่น การใช้ระบบ ERP ช่วยจัดการข้อมูลสินค้า คลังสินค้า การเงิน ช่วยให้ทำงานได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว
  • เพิ่มเวลาให้พนักงาน: พนักงานมีเวลามากขึ้น โดยการใช้ระบบ Paperless ในการช่วยจัดการขั้นตอนในการทำเอกสารยิบย่อยต่างๆ ให้ง่ายขึ้น ทำให้พนักงานมีเวลาไปทำงานอย่างอื่นมากขึ้น
  • ลดต้นทุน: ประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น การใช้ระบบ Cloud Computing ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดการ IT Infrastructure ขององค์กร

2. เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

  • เข้าถึงลูกค้าใหม่: การทำการตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้ใหม่ได้ง่ายขึ้น
  • เข้าใจลูกค้า: การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า (Customer Analytics) ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
  • สร้างประสบการณ์ที่ดี: การใช้ CRM จะช่วยให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า เช่น ระบบสะสมแต้ม ระบบส่วนลดและระบบแลกของรางวัล

3. เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

  • สร้างความแตกต่าง: ปัจจุบันมีหลายเทคโนโลยีให้เลือกใช้ในการสร้างจุดเด่นให้กับธุรกิจ เช่น การใช้ AI เพื่อ Generate ไอเดียต่างๆ ที่จะช่วยออกแบบสินค้า บริการ ที่แตกต่างจากคู่แข่ง
  • ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง: ปรับตัวได้เร็วด้วยการทำ Digital Marketing ช่วยให้ปรับกลยุทธ์การตลาดได้รวดเร็ว ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้องการของผู้บริโภค
  • สร้างโอกาสใหม่: องค์กรสามารถหาช่องทางการทำธุรกิจใหม่ โดยการนำ Big Data มาวิเคราะห์เพื่อหาโอกาสต่างๆ เพิ่มมากขึ้น

4. พัฒนาองค์กร

  • สร้างวัฒนธรรมใหม่: ปรับให้วัฒนธรรมองค์กรทันสมัย ด้วยการส่งเสริมให้พนักงานเรียนรู้ทักษะใหม่ 
  • เพิ่มขีดความสามารถของพนักงาน: พัฒนาทักษะพนักงาน ผ่านการฝึกอบรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ เช่น การใช้ระบบ Collaboration Tools ช่วยให้การทำงานระยะไกลหรือ Remote Work ง่ายขึ้น

5. เข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูล

  • เก็บข้อมูล: เก็บข้อมูลลูกค้าโดยใช้ระบบ CRM เข้ามาช่วยในการเก็บและจัดการหมวดหมู่ต่างๆ ให้ง่ายต่อการนำมาใช้งาน
  • วิเคราะห์ข้อมูล: เข้าใจพฤติกรรมลูกค้ามากขึ้น ด้วยการใช้ระบบ Business Intelligence ที่เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ จัดการ และวางกลยุทธ์สำหรับธุรกิจ
  • ตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ: สามารถนำข้อมูลที่วิเคราะห์แล้ว มาช่วยตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้

อย่างไรก็ตาม Digital Transformation ไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จสำหรับทุกองค์กร แต่ละองค์กรจึงจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทธุรกิจ เป้าหมาย ทรัพยากร และความพร้อมของบุคลากร ก่อนตัดสินใจดำเนินการปรับเปลี่ยน

 

ทั้งนี้ ธุรกิจขนาดเล็กอาจไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อน เพียงแค่ใช้ระบบออนไลน์พื้นฐาน ก็สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้แล้ว ธุรกิจที่เน้นการบริการลูกค้า จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงเร็ว จำเป็นต้องมีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

แนะนำ Digital Solution ของ SCB TechX

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล (Digital Transformation) ช่วยให้ยกระดับธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยหนึ่งในวิธีการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ คือ การนำ Digital Solution มาปรับปรุงและแก้ไขปัญหาการดำเนินงานด้านต่างๆ ในองค์กร ทาง SCB TechX บริษัทที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation ชั้นนำ ได้มีบริการ Cloud Solution ไว้รองรับองค์กรที่สนใจการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล ดังนี้

  • Cloud Foundation and Landing Zone (Cloud Accelerator Program) บริการสร้าง Cloud ที่สามารถรองรับการขยายตัวในอนาคต (Scalable) และเหมาะสมกับความต้องการขององค์กร ซึ่งช่วยให้สามารถเริ่มต้นใช้คลาวด์ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีความปลอดภัยตรงตามมาตรฐาน CIS Compliance เพื่อให้การพัฒนาและการทำงานบนคลาวด์มีประสิทธิภาพ
  • Cloud Security ผู้เชี่ยวชาญของเราจะประเมินความปลอดภัย (Security assessment) และทดสอบการเจาะระบบ (Penetration test) เพื่อค้นหาช่องโหว่ที่เป็นจุดอ่อน และติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม ช่วยให้องค์กรมั่นใจว่าข้อมูลจะปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์
  • Cloud Migration การย้ายข้อมูลและแอปพลิเคชันไปยังคลาวด์เป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อน ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ SCB TechX จะช่วยวางแผนการย้ายข้อมูล กำหนดวิธีการโยกย้ายข้อมูล และทดสอบระบบ เพื่อให้การย้ายคลาวด์เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย
  • Cloud Operation Management บริการนี้จะช่วยบริหารจัดการคลาวด์ขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ ผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยติดตามประสิทธิภาพการทำงานของระบบ วิเคราะห์ข้อมูลการใช้งาน และจัดการทรัพยากรคลาวด์ให้เหมาะสมกับองค์กร

 

การใช้คลาวด์นับเป็นอีกหนึ่งใน Innovation ที่เหมาะสำหรับยุคดิจิทัล ซึ่งระบบคลาวด์ที่เสถียร จะช่วยให้การจัดเก็บข้อมูลเป็นไปอย่างลื่นไหล ดังนั้น การใช้บริการคลาวด์จากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้ธุรกิจปรับขนาดโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ได้อย่างยืดหยุ่น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุน และสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล

 

SCB TechX พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือองค์กรของคุณในการใช้งานคลาวด์อย่างมีประสิทธิภาพ

ติดต่อทีมงานผู้เชี่ยวชาญบริการ Cloud Solution ของเราได้ที่ Email: contact@scbtechx.io

ติดตาม SCB TechX เพื่ออัปเดตข่าวสารใหม่ๆ ก่อนใคร

Facebook: SCB TechX

Medium: medium.com/scb-techx 

LinkedIn: www.linkedin.com/company/scb-tech-x/

YouTube: SCB TechX

Related Content

  • ทั้งหมด
  • Blogs
  • Insights
  • News
    •   Back
    • Blockchain
    • Finance
    • Tech innovation
    •   Back
    • Leadership
    • PointX Products
    • Events
    • Others
    • Joint ventures
    • Partnership
    • Services & Products
    •   Back
    • Data Science
    • Careers
    • Lifestyle
    • Product
    • Strategy
    • Technology
    • User Experience

Your consent required

If you want to message us, please give your consent to SCB TechX to collect, use, and/or disclose your personal data.

| การเพิกถอนความยินยอม

หากคุณต้องการเพิกถอนการให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล กรุณาส่งคำร้องหาเรา

Vector

Message sent

We have receive your message and We will get back to you shortly.