ณ ปัจจุบัน “อุตสาหกรรมการผลิตและพัฒนาหุ่นยนต์” คือ หนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะหุ่นยนต์สำหรับสายการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ส่งผลให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) สามารถเข้าถึงการใช้งานหุ่นยนต์ได้มากขึ้น ซึ่งผู้ที่มีบทบาทในการพัฒนาหุ่นยนต์โรงงานเรียกว่า System Integrator
ในบทความนี้ SCB TechX จะพาไปรู้จักกับ System Integrator และอนาคตของการใช้งานหุ่นยนต์ในระดับอุตสาหกรรม
เหตุผลที่ต้องใช้หุ่นยนต์ในโรงงาน
การนำหุ่นยนต์มาใช้ในโรงงานมีจุดประสงค์หลัก คือ ทำหน้าที่บางอย่างแทนมนุษย์ โดยเฉพาะงานที่มีความอันตรายสูง อาทิ งานประกอบเครื่องจักร งานที่ต้องใช้ความร้อน และงานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย เป็นต้น นอกจากนี้ การนำหุ่นยนต์มาใช้ในโรงงานยังเอื้อประโยชน์ต่อภาพรวมการผลิตอีกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นความแม่นยำ ความรวดเร็ว และระยะเวลาในการทำงาน เพราะหุ่นยนต์สามารถทำงานอย่างต่อเนื่องแบบไม่ต้องพักได้นานกว่ามนุษย์
ยกตัวอย่างประเภทหุ่นยนต์ที่นิยมใช้ในโรงงาน ดังนี้
1. หุ่นยนต์แขนกล (Articulated Robot)
หุ่นยนต์แขนกลมีลักษณะคล้ายกับแขนมนุษย์ โดยสามารถเคลื่อนไหวได้หลายแกน เหมาะกับงานประกอบชิ้นส่วนต่างๆ
2. หุ่นยนต์สกาลา (SCARA Robot)
หุ่นยนต์สกาลามีลักษณะคล้ายกับหุ่นยนต์แขนกล แต่เหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น งานประกอบชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก
3. หุ่นยนต์เดลต้า (Delta Robot)
หุ่นยนต์เดลต้าเป็นหุ่นยนต์ที่มีโครงสร้างลักษณะสามเหลี่ยม โดยมีความสามารถในการหยิบและวาง เหมาะกับสายการผลิตที่ต้องการความรวดเร็ว
ความสำคัญของ System Integrator
อย่างไรก็ตาม การนำหุ่นยนต์มาใช้ในโรงงานถือเป็นเรื่องท้าทายของผู้ประกอบการ เพราะบริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์มักจะวางบทบาทของตนเองในฐานะผู้จำหน่ายอุปกรณ์ ซึ่งมีหน้าที่พัฒนา ผลิต จำหน่าย และให้ข้อมูลทางเทคนิคเท่านั้น ส่งผลให้การนำหุ่นยนต์มาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก เพราะต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงระบบของหุ่นยนต์เพิ่มเติม เพื่อให้หุ่นยนต์สามารถทำงานสอดคล้องกับแนวทางการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมแต่ละแห่ง ดังนั้นบริษัท System Integrator จึงเข้ามามีความสำคัญในบทบาทดังกล่าว
System Integrator คืออะไร?
System Integrator หรือ SI คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านบูรณาการระบบอัตโนมัติ โดยจะมุ่งเน้นไปที่หุ่นยนต์สำหรับใช้ในโรงงาน ซึ่ง System Integrator มีบทบาทตั้งแต่การวิเคราะห์กระบวนการผลิตของโรงงานนั้นๆ ออกแบบระบบ ตั้งค่าพื้นฐานให้หุ่นยนต์ ไปจนถึงสอนการตั้งค่าและปรับแต่งหุ่นยนต์ให้กับเจ้าหน้าที่ของโรงงาน
โดย System Integrator จะทำให้ผู้ประกอบการเข้าถึงประสิทธิภาพสูงสุดของหุ่นยนต์ได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องลงทุนในหุ่นยนต์ราคาสูง และลดความจำเป็นในการว่าจ้างทีมพัฒนาภายใน ส่งผลให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสามารถเข้าถึงการใช้หุ่นยนต์ได้มากขึ้น
หุ่นยนต์และคลาวด์คอมพิวติ้ง
หนึ่งในแนวทางที่บริษัท System Integrator นิยมนำมาใช้พัฒนาระบบหุ่นยนต์ คือ การผสานเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing Technology) เข้ากับการทำงานของหุ่นยนต์ ซึ่งเป็นคลาวด์โซลูชัน (Cloud Solutions) ประเภทหนึ่งที่เรียกว่า Robotics as a Service หรือ RaaS เพื่อปลดล็อกขีดจำกัดการทำงานของหุ่นยนต์ โดยขั้นตอนในการเชื่อมต่อคลาวด์กับหุ่นยนต์ ได้แก่
1. ติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่าย
การติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายจะช่วยให้หุ่นยนต์สามารถเชื่อมต่อกับ Wi-Fi, Bluetooth หรือสัญญาณ Ethernet ได้
2. ติดตั้งซอฟต์แวร์คลาวด์แพลตฟอร์ม
เมื่อติดตั้งซอฟต์แวร์คลาวด์แพลตฟอร์มจะทำให้หุ่นยนต์สามารถเชื่อมต่อกับคลาวด์เซิร์ฟเวอร์ (Cloud Server) ได้
3. ตั้งค่าการทำงาน
การตั้งค่าข้อกำหนดการทำงานของหุ่นยนต์จะขึ้นอยู่กับกระบวนการผลิตและความต้องการของโรงงานอุตสาหกรรมแต่ละแห่ง
ข้อดีของการเชื่อมหุ่นยนต์กับคลาวด์
ตัวอย่างข้อดีของการเชื่อมหุ่นยนต์กับคลาวด์ ได้แก่
1. หุ่นยนต์สามารถแบ่งปันข้อมูลระหว่างกันได้
คลาวด์จะเปรียบเสมือนคลังข้อมูลขนาดใหญ่ส่วนกลาง ซึ่งหุ่นยนต์ทุกตัวสามารถส่ง-รับข้อมูลจากคลาวด์เดียวกันได้ ส่งผลให้หุ่นยนต์วิเคราะห์และเรียนรู้จากประสบการณ์ของกันและกันได้
2. เข้าถึงสินค้าได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับหุ่นยนต์ดูแลคลังสินค้า การเข้าถึงข้อมูลตำแหน่งจัดเก็บสินค้าในคลังที่อยู่บนคลาวด์ จะส่งผลให้หุ่นยนต์สามารถค้นหาสินค้าได้อย่างรวดเร็ว
3. ซอฟต์แวร์ทันสมัย
ผู้ดูแลระบบหุ่นยนต์สามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ของหุ่นยนต์ทุกตัวผ่านคลาวด์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ช่วยให้หุ่นยนต์มีซอฟต์แวร์ใหม่ที่ทันสมัยอยู่เสมอ
4. การเข้าถึงแบบเรียลไทม์
ผู้ดูแลสามารถตรวจสอบการทำงานของหุ่นยนต์ได้แบบเรียลไทม์ โดยอาศัยการเข้าถึงผ่านคลาวด์
5. ประหยัดต้นทุน
การเชื่อมต่อหุ่นยนต์กับคลาวด์ช่วยประหยัดต้นทุนของผู้ประกอบการ เพราะทำให้หุ่นยนต์มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อหุ่นยนต์ หรืออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เสริมที่มีราคาแพง
ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ บนคลาวด์เซิร์ฟเวอร์ ส่งผลให้อนาคตของการประยุกต์ใช้คลาวด์กับหุ่นยนต์มีขีดจำกัดน้อยลงเรื่อยๆ อาทิ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ได้ด้วยการให้หุ่นยนต์ส่งข้อมูลการทำงานไปยังคลาวด์เซิร์ฟเวอร์ แล้วให้ปัญญาประดิษฐ์ทำการวิเคราะห์และวางแผนการทำงานใหม่ หลังจากนั้นส่งข้อมูลกลับไปยังหุ่นยนต์ เพื่อยกระดับการทำงานของหุ่นยนต์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะหุ่นยนต์เป็นเครื่องจักรกลที่จะทำงานซ้ำๆ ตามโปรแกรมที่กำหนดไว้ หากหุ่นยนต์เจอตัวแปรที่อยู่นอกเหนือโปรแกรม หุ่นยนต์จะไม่สามารถทำงานได้ หรือเกิดการ Error
โดย SCB TechX ถือเป็น System Integrator ที่สามารถออกแบบคลาวด์โซลูชัน RaaS ให้กับโรงงานอุตสาหกรรมได้ เพราะเราเชื่อว่า ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสามารถเข้าถึงการใช้งานหุ่นยนต์ในโรงงานได้ไม่ต่างจากธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยให้เจ้าหน้าที่ในโรงงานทำงานได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น พร้อมกับลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิผลให้กับผู้ประกอบการเองด้วยเช่นกัน
แนะนำ Cloud Solutions ของ SCB TechX
SCB TechX พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือองค์กรของคุณในการใช้งานคลาวด์อย่างมีประสิทธิภาพ
และยังมีการให้บริการอื่นที่พัฒนาบน Cloud Infrastructure เพื่อตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรต่างๆ อาทิเช่น e-KYC, KYC และ NDID ที่องค์กรสามารถใช้ในการตรวจสอบและยืนยันตัวตนของลูกค้าได้โดยไม่ต้องพัฒนาระบบขึ้นมาเอง หากองค์การใดที่มีความต้องการการใช้งาน สามารถติดต่อทีมงานผู้เชี่ยวชาญบริการ Cloud Solutions ของเราได้ที่ Email: contact@scbtechx.io
ติดตาม SCB TechX เพื่ออัปเดตข่าวสารใหม่ๆ ก่อนใคร
Facebook: SCB TechX
Medium: medium.com/scb-techx
LinkedIn: www.linkedin.com/company/scb-tech-x/
YouTube: SCB TechX